ตับเป็นอวัยวะที่สำคัญมาก แต่ก็เป็นอวัยวะที่บอบบางและเสียหายได้ง่าย นอกจากการดื่มแอลกอฮอล์แล้ว มะเร็งตับยังสามารถเกิดขึ้นจากปัจจัยที่หลายคนคาดไม่ถึงได้เช่นกัน

ตับทำหน้าที่ขับสารพิษ ย่อยอาหาร และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน แต่ในขณะเดียวกัน ตับก็เป็น “อวัยวะเงียบ” ที่เมื่อเริ่มเกิดโรคขึ้น มักไม่มีอาการชัดเจนตั้งแต่แรก และมักถูกตรวจพบในระยะท้ายของโรคเท่านั้น ในชีวิตประจำวัน หลายคนมักละเลยการดูแลตับ จนกระทั่งเมื่อเกิดโรคแล้วจึงเริ่มเสียใจ ซึ่ง หยางหมิง ก็เป็นหนึ่งในนั้น

หยางหมิง ชายวัยกว่า 40 ปี เป็นคนขับแท็กซี่ในมณฑลเหอหนาน ประเทศจีน เขาต้องทำงานหนักตั้งแต่เช้าจรดค่ำเพื่อดูแลครอบครัว แม้จะเหนื่อยล้าและเครียด แต่เขาไม่ดื่มเหล้าหรือสูบบุหรี่เหมือนเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ แถมยังหุงข้าวและเตรียมอาหารเองทุกวันเพื่อประหยัดเงิน เพราะเหตุนี้ เมื่อรู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้าย เขาจึงรู้สึกตกใจอย่างมาก

ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา หยางหมิงเริ่มรู้สึกอ่อนเพลีย น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว แม้จะกินอาหารตามปกติ จนกระทั่งสังเกตเห็นว่าผิวและตาเริ่มเหลืองคล้ายขมิ้น และมีอาการปวดบริเวณชายโครงขวาลามไปถึงหัวไหล่และหลัง เขาจึงไปพบแพทย์ ผลตรวจพบว่าค่าทรานซามิเนสและอัลฟาฟีโตโปรตีนสูงกว่าปกติหลายเท่า การตรวจชิ้นเนื้อยืนยันว่าเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้าย และมีการแพร่กระจายไปหลายจุดแล้ว

หลังจากพูดคุยกับแพทย์ หยางหมิงก็พบว่าสาเหตุของโรคนี้มาจาก หม้อหุงข้าวไฟฟ้าที่เขาใช้ทุกวันตลอดเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา เขารู้สึกเสียใจมาก แต่ทุกอย่างก็สายเกินไป

หุงข้าวด้วยหม้อหุงข้าวไฟฟ้าที่เคลือบหลุดลอก อันตรายอย่างไร?

แพทย์อธิบายว่า เช่นเดียวกับหลาย ๆ คน หยางหมิงไม่เคยให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนหม้อในหม้อหุงข้าวไฟฟ้าเมื่อเคลือบกันติดเริ่มลอก เขายอมรับว่าในช่วงเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา เขาเปลี่ยนหม้อในเพียงครั้งเดียว ส่วนตัวหม้อภายนอกเมื่อเสียก็นำไปซ่อมต่อโดยไม่คิดอะไรมาก เขาไม่รู้เลยว่าความประหยัดเล็ก ๆ นี้กลับนำมาซึ่ง “โทษถึงชีวิต”

เมื่อสารเคลือบกันติดภายในหม้อเริ่มหลุดลอก โลหะหนักและสารเคมีจากสารเคลือบ อาจปนเปื้อนลงในอาหารได้ งานวิจัยพบว่าการสัมผัสสารเหล่านี้เป็นเวลานานอาจปล่อยสารพิษที่เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคร้ายแรง รวมถึงมะเร็งตับ

โดยเฉพาะสารเคลือบที่ทำจาก โพลีเตตระฟลูออโรเอทิลีน (PTFE) หรือ เพอร์ฟลูออโรออกทาโนอิกแอซิด (PFOA) การได้รับ PFOA ในระยะยาวถูกเชื่อมโยงกับโรคตับหลายชนิด รวมถึงมะเร็งตับ สารเหล่านี้สามารถทำลายเซลล์ตับและรบกวนการทำงานของตับได้

นอกจากนี้ สารบางชนิดจากการหลุดลอกของสารเคลือบยังอาจรบกวนฮอร์โมนในร่างกาย เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคอื่น ๆ เช่น เบาหวาน โรคอ้วน และปัญหาการสืบพันธุ์ อีกทั้งยังทำให้อาหารมีกลิ่นและรสชาติผิดเพี้ยน และเพิ่มความเสี่ยงต่อการไหม้หรือระเบิดของหม้อหุงข้าวอีกด้วย

วิธีป้องกัน

เพื่อความปลอดภัย ควรหมั่นตรวจสอบสภาพหม้อหุงข้าวไฟฟ้าที่บ้าน หากพบว่าสารเคลือบเริ่มหลุดลอกหรือมีคราบไหม้ผิดปกติ ควรรีบเปลี่ยนหม้อใหม่ทันที ระหว่างใช้งานและล้างทำความสะอาดควรทำอย่างเบามือ เพื่อป้องกันการขีดข่วนที่ทำให้สารเคลือบหลุดออกมาอีก