เด็กชายอายุ 12 ปีป่วยเป็น “ม.ะเ.ร็.ง.ป.อ.ด.ระ.ยะ.สุดท้าย” — แม่เสียใจอย่างหนัก เพราะการตามใจลูกมากเกินไป
อย่ามองข้าม 4 สัญญาณผิดปกติในร่างกาย เพราะนั่นอาจเป็นคำเตือนจากร่างกายของคุณเอง

แม้ภายนอกเด็กชายจะดูแข็งแรงเหมือนปกติ แต่ความจริงคืออาการของเขาอยู่ในภาวะอันตรายรุนแรงแล้ว

โดยทั่วไป มะเร็งหรือเนื้องอกมักเกิดในผู้ใหญ่ แต่เด็กชายวัย 12 ปีจากมณฑลหูหนาน ประเทศจีน กลับถูกวินิจฉัยว่าเป็น “มะเร็งปอดระยะสุดท้าย” วันหนึ่ง แม่ของเขาพบก้อนแข็งที่กระดูกไหปลาร้า แม้จะไม่เจ็บหรือคัน แต่ก็รีบพาไปโรงพยาบาลตรวจ ผลตรวจออกมาคือ “มะเร็งปอด”

แพทย์ตรวจพบว่าเป็น “Ewing’s sarcoma” ซึ่งเป็นเนื้องอกชนิดร้ายแรง และหลังจากนำไปตรวจซ้ำที่โรงพยาบาลอื่น ก็ได้รับการยืนยันว่าเป็น “มะเร็งปอดระยะลุกลาม” ด้วยอัตราการลุกลามสูงและผู้ป่วยยังอายุน้อย ทำให้โอกาสรักษาหายมีน้อยมาก

แม่ของเด็กเล่าว่า ลูกชายมีพฤติกรรมไม่ดีหลายอย่างที่เธอเคยละเลย เช่น “ไม่กินอาหารเช้า กินข้าวกลางวันและเย็นได้เพียงครึ่งถ้วย ต้องคอยป้อนถึงจะยอมกิน ดื่มแต่น้ำผลไม้หรือเครื่องดื่มอัดลมแทนน้ำเปล่า” อีกทั้งยังติดเกม เล่นมือถือดึกดื่น จนพักผ่อนไม่เพียงพอ พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอและกลายเป็นโรคร้าย

แพทย์ผู้รักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งมณฑลหูหนานกล่าวว่า มะเร็งปอดเป็นโรคที่มีอัตราการเกิดและการเสียชีวิตสูงที่สุดในบรรดามะเร็งทั้งหมด และเด็กชายวัย 12 ปีคนนี้เป็นผู้ป่วยที่อายุน้อยที่สุดที่เขาเคยพบ

4 สัญญาณเตือน “มะเร็งปอดระยะเริ่มต้น” ที่ไม่ควรมองข้าม

1. ไอแห้งเรื้อรัง
   เป็นอาการเริ่มต้นที่พบบ่อยที่สุดของมะเร็งปอด ไอแห้ง ๆ ไม่มีเสมหะหรือมีน้อย ไอไม่หยุดแม้รักษาแล้ว หากไอนานเกิน 2–3 สัปดาห์ควรรีบพบแพทย์

2. เจ็บหน้าอก ไหล่ หรือหลังเล็กน้อยแต่ต่อเนื่อง
   มักเป็นอาการปวดตื้อ ๆ หรือแน่นบริเวณหน้าอก ซึ่งหลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นอาการของกล้ามเนื้ออักเสบหรือโรคหัวใจ จึงมักละเลยการตรวจปอด

3. อ่อนเพลียและน้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
   หากน้ำหนักลดมากกว่า 5% ภายใน 1 เดือนโดยไม่ได้ตั้งใจ และรู้สึกเหนื่อยล้าแม้พักผ่อนเพียงพอ ควรระวังว่าอาจเป็นสัญญาณของมะเร็งปอด

4. ติดเชื้อทางเดินหายใจซ้ำ ๆ
   หากมีอาการหลอดลมอักเสบหรือปอดอักเสบบ่อยในตำแหน่งเดิม แสดงว่าอาจมีสิ่งอุดตันในหลอดลมจากก้อนเนื้อ นอกจากนี้ ผู้ป่วยบางรายอาจมีเสียงแหบหรือปลายนิ้วบวม

ความสำคัญของการตรวจคัดกรองแต่เนิ่น ๆ

มะเร็งปอดมักถูกพบเมื่อเข้าสู่ระยะท้าย เพราะช่วงเริ่มต้นอาการไม่ชัดเจน หากอยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น อายุเกิน 50 ปี สูบบุหรี่มานาน หรือมีประวัติครอบครัว ควรตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบ CT ความเข้มต่ำเป็นประจำ แม้ไม่มีอาการ เพราะสามารถตรวจพบก้อนขนาดเพียงไม่กี่มิลลิเมตรได้

การค้นพบตั้งแต่ระยะเริ่มต้นคือกุญแจสำคัญในการรักษาและเพิ่มโอกาสรอดชีวิตจาก “มะเร็งปอด”