เมื่อถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยว หลาย ๆ บ้านอาจมีมะเขือเทศสุกจำนวนมากจนกินไม่ทัน บางครั้งปล่อยไว้จนเน่าเสีย น่าเสียดายทั้งแรงปลูกและคุณค่าทางโภชนาการ มะเขือเทศนั้นอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี ไลโคปีน และสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อสุขภาพ หากเรารู้วิธีถนอมอาหารอย่างถูกต้อง ก็สามารถยืดอายุการเก็บรักษาได้ยาวนาน ทั้งยังช่วยประหยัดเงินค่ากับข้าวไปได้มาก วันนี้เราจึงนำเสนอ 5 วิธีง่าย ๆ ในการเก็บรักษามะเขือเทศให้กินได้ตลอดทั้งปี ทำเองได้ที่บ้าน โดยไม่ต้องเสียเงินไปตลาดบ่อย ๆ

วิธีแรกคือ ทำซอสมะเขือเทศ เพียงล้างสะอาด หั่นเป็นชิ้น ต้มกับเครื่องปรุงเช่นเกลือ น้ำตาล และสมุนไพรตามชอบ จากนั้นปั่นให้เนียนแล้วบรรจุในขวดแก้วปิดสนิท เก็บไว้ในตู้เย็นหรือแช่แข็ง เมื่อถึงเวลาจะทำอาหาร เช่น ผัด พาสต้า หรือพิซซ่า ก็หยิบออกมาใช้ได้ทันที สะดวกและอร่อยเหมือนใหม่

วิธีที่สองคือ ตากแห้งหรืออบแห้ง นำมะเขือเทศผ่าครึ่ง เอาเมล็ดออกเล็กน้อย โรยเกลือบาง ๆ แล้วตากแดดจัดหรืออบด้วยความร้อนต่ำจนเนื้อแห้ง สามารถนำไปใส่ขวดที่มีน้ำมันมะกอกเพิ่มรสชาติ เหมาะสำหรับทำสลัด พาสต้า หรือเมนูสไตล์อิตาเลียน ทำให้รสหวานของมะเขือเทศเข้มข้นขึ้น

วิธีที่สามคือ แช่แข็งทั้งลูกหรือหั่นชิ้น วิธีนี้ง่ายที่สุด แค่ล้างให้สะอาด ผึ่งให้แห้ง จากนั้นใส่ถุงซิปล็อกแล้วแช่ช่องฟรีซ เมื่อจะนำไปทำอาหาร เช่น แกงหรือต้ม ก็หยิบออกมาใช้ได้ทันที แม้ผิวอาจแตก แต่รสชาติก็ยังดีอยู่

วิธีที่สี่คือ ดองมะเขือเทศ สำหรับคนที่ชอบรสเปรี้ยวกรอบ ทำได้โดยหมักกับน้ำส้มสายชู เกลือ และสมุนไพร เช่น กระเทียม ผักชีลาว ใส่ในขวดแก้วปิดฝาให้สนิท รอให้รสชาติซึมซาบก็พร้อมรับประทาน เป็นของกินเล่น หรือแนมอาหารได้ดี

วิธีสุดท้ายคือ ทำมะเขือเทศบดหรือกวน ต้มเนื้อให้เละแล้วบดหรือกวนจนข้น บรรจุใส่ภาชนะปิดฝา เก็บไว้เป็นฐานปรุงอาหารต่าง ๆ เช่น ซุป หรือซอสต่าง ๆ วิธีนี้ช่วยให้ประหยัดพื้นที่และใช้งานได้หลากหลาย

ทั้ง 5 วิธีนี้ไม่เพียงช่วยยืดอายุการเก็บมะเขือเทศเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความสะดวกในการเตรียมอาหารในชีวิตประจำวัน ลดการสูญเสียอาหาร และช่วยให้เราเพลิดเพลินกับผลผลิตจากสวนของเราตลอดทั้งปี ดังนั้น หากคุณมีมะเขือเทศสุกเยอะเกินกิน ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปใช้ รับรองว่าคุ้มค่าและไม่ต้องเสียเงินไปตลาดบ่อย ๆ อีกต่อไป