ผักและผลไม้มีสารอาหารมากมายที่ดีต่อสุขภาพ ดังนั้นการรับประทานอาหารกลุ่มนี้เป็นประจำจะช่วยเสริมสร้างสุขภาพและป้องกันโรคต่างๆ ได้มากมาย อย่างไรก็ตาม การรับประทานผัก 5 ประเภทนี้ ไม่เพียงแต่จะไม่มีประโยชน์ แต่ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วย

1. มันฝรั่งงอก

มันฝรั่งเป็นอาหารโปรดของใครหลายคน และเป็นอาหารที่คุ้นเคยของหลายครอบครัว มันฝรั่งมีไฟเบอร์ วิตามินซี วิตามินบี และเป็นแหล่งโพแทสเซียมชั้นยอด อย่างไรก็ตาม หากคุณเห็นมันฝรั่งงอก ควรทิ้งทันทีเพื่อปกป้องสุขภาพของคุณ

มันฝรั่งงอกมีไกลโคอัลคาลอยด์ในระดับสูง โดยเฉพาะโซลานีนและชาโคนีน สารทั้งสองชนิดนี้อาจเป็นพิษต่อร่างกายหากได้รับมากเกินไปและทำให้เกิดอาการต่างๆ อาการที่ไม่รุนแรง ได้แก่ อาเจียน ท้องเสีย และปวดท้อง อาการที่รุนแรงขึ้นอาจทำให้ความดันโลหิตต่ำ ชีพจรเต้นเร็ว มีไข้ ปวดศีรษะ สับสน และในบางกรณีอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้

นอกจากนี้ การศึกษาขนาดเล็กบางกรณียังชี้ให้เห็นว่าการรับประทานมันฝรั่งงอกในระหว่างตั้งครรภ์อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดข้อบกพร่องทางการเกิดได้

เลือกมันฝรั่งอย่างไรดี?

เลือกมันฝรั่งที่ไม่มีรอยบาด รอยช้ำ จุดเขียว และต้นอ่อน เก็บมันฝรั่งไว้ในที่เย็นและมืด เพื่อป้องกันไม่ให้เน่าเสียง่าย เปลี่ยนเป็นสีเขียว หรือแตกหน่อ

2. ถั่วเขียวดิบ

เช่นเดียวกับถั่วส่วนใหญ่ ถั่วเขียวดิบมีเลกติน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ทำหน้าที่เป็นสารต้านเชื้อราและยาฆ่าแมลงตามธรรมชาติสำหรับพืช

อย่างไรก็ตาม หากคุณรับประทานเลกตินเข้าไป เลกตินจะดื้อต่อเอนไซม์ย่อยอาหาร ส่งผลให้เลกตินจับกับพื้นผิวเซลล์ในระบบย่อยอาหาร ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ ท้องเสีย อาเจียน และท้องอืด หากรับประทานในปริมาณมาก

พวกมันยังสามารถทำลายเซลล์ลำไส้และส่งผลต่อแบคทีเรียที่มีประโยชน์ในลำไส้ของคุณ ยิ่งไปกว่านั้น พวกมันยังรบกวนการย่อยและการดูดซึมสารอาหาร ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกมันจึงถูกเรียกว่าสารต้านสารอาหาร

ถั่วเขียวกินยังไง?

คุณควรทานถั่วเขียวที่ปรุงโดยการต้ม นึ่ง หรือผัด

3. มะเขือเทศดิบ

มะเขือเทศดิบมีสารโซลานีน ซึ่งเป็นสารพิษชนิดเดียวกับที่พบในมันฝรั่งงอก แม้ว่าปริมาณจะค่อนข้างต่ำ แต่การบริโภคในระยะยาวหรือในปริมาณมากก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของมนุษย์ได้

อาการที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่ อาเจียน ปวดท้อง และท้องเสีย ในกรณีที่ได้รับพิษรุนแรงขึ้น คุณอาจมีอาการทางระบบประสาท เช่น ง่วงซึม อ่อนเพลีย สับสน อ่อนแรง และการมองเห็นผิดปกติ

วิธีเลือกมะเขือเทศให้อร่อยและปลอดภัย

รอยแผลเป็น ตุ่มพอง หรือจุดดำบนมะเขือเทศ บ่งบอกว่ามะเขือเทศสุกเกินไปหรือเน่าเสียก่อนกำหนด ควรเลือกมะเขือเทศที่มีผิวเรียบและมีสีแดงสม่ำเสมอ ปราศจากจุด ซึ่งเป็นสัญญาณของความสด

นอกจากนี้ คุณไม่ควรเลือกมะเขือเทศที่มีตาสีเหลืองหรือสีเข้ม แข็ง หรือมีเมล็ดสีเขียวอยู่ข้างใน เพราะอาจเป็นสัญญาณว่ามะเขือเทศสุกงอมจากสารเคมี

4. ขิงเน่า

ขิงเป็นเครื่องเทศและสมุนไพรที่ใช้กันทั่วไปซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เช่น ต้านเชื้อแบคทีเรีย ช่วยรักษากระดูกและข้อ ลดอาการอาหารไม่ย่อย เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ขิงที่เน่าเสียมีสารพิษ เช่น สารซาโฟรล ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งในระดับสูง

ดังนั้นหากเห็นว่าขิงนิ่มและเละ เนื้อข้างในเป็นสีน้ำตาลหรือสีดำแทนที่จะเป็นสีเหลืองอ่อนตามธรรมชาติ ผิวขิงมีรอยด่างหรือจุดสีน้ำตาล หรือมีกลิ่นเหม็นหรือไม่พึงประสงค์แทนที่จะเป็นกลิ่นหอมเฉพาะตัวของขิง คุณควรทิ้งไปทันที

วิธีเลือกขิงให้อร่อยและปลอดภัย

คุณควรเลือกขิงที่มีลักษณะอวบอิ่ม เปลือกไม่เหี่ยว เมื่อทุบแล้วจะรู้สึกสดชื่นและยังมีน้ำคั้นออกมาเล็กน้อย

5. ฟักทองเก่าและเน่า

ฟักทองมีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต แคโรทีนอยด์ วิตามิน และแร่ธาตุ ฟักทองมีประโยชน์ต่อดวงตา ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบภูมิคุ้มกัน...

อย่างไรก็ตาม ระหว่างการเก็บรักษาฟักทอง เนื่องจากมีปริมาณน้ำตาลสูง จึงมักเกิดสภาวะไร้อากาศ ทำให้เนื้อฟักทองเน่าเสียและมีกลิ่นแอลกอฮอล์ ฟักทองที่เน่าเสียนี้ไม่เพียงแต่มีรสชาติแย่เท่านั้น แต่ยังมีสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์อีกด้วย ดังนั้น เมื่อซื้อฟักทอง ควรเลือกฟักทองที่สดและไม่เน่าเสีย และรับประทานทันที