ไฟไหม้ถ่านหินใต้ดิน ถือเป็นภัยคุกคามที่ “ดื้อรั้นและยาวนาน” อย่างยิ่ง
การสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐฯ (USGS) ระบุว่า ไฟไหม้ลักษณะนี้สามารถลุกไหม้อยู่ได้นานหลายสิบปีภายในเหมืองหรือแนวถ่านหิน

บางแห่งยาวนานกว่านั้น — เช่น ไฟใต้ดินในเมืองเซ็นทราเลีย รัฐเพนซิลเวเนีย ที่เริ่มลุกไหม้มาตั้งแต่ปี 1962 และคาดว่าจะยังคงเผาไหม้ต่อไปอีกหลายทศวรรษ หรืออาจถึงศตวรรษ หากไม่มีการควบคุม

ในอีกซีกโลกหนึ่ง ที่ Burning Mountain ประเทศออสเตรเลีย
มีแนวชั้นถ่านหินธรรมชาติที่ลุกไหม้อย่างต่อเนื่องมานานกว่า 5,500 ปี
กลายเป็นหนึ่งในตัวอย่างหายากของ “ไฟถ่านหินที่ไม่เคยดับ” ยาวนานนับพันปี

แต่ไฟเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดดเดี่ยว —
รายงานจากการสำรวจทางธรณีวิทยาทั่วโลกเผยว่า
มี ไฟไหม้ถ่านหินใต้ดินหลายพันจุด เกิดขึ้นพร้อมกันในกว่า 22 ประเทศทั่วโลก
ปล่อยสารมลพิษและก๊าซเรือนกระจกออกสู่อากาศ
พร้อมทั้งสร้างความเสียหายต่อชุมชนและระบบนิเวศโดยรอบ

แม้จำนวนที่แน่นอนของไฟเหล่านี้จะแตกต่างกันไปตามการศึกษา
แต่สิ่งหนึ่งที่แน่ชัดคือ —
ขนาด ความรุนแรง และความยืดหยุ่นของมัน ได้รับการบันทึกไว้อย่างชัดเจนและต่อเนื่อง