ไม่ใช่ทุกคนจะรู้วิธีเก็บรักษาเครื่องปรุงรสอย่างถูกต้อง เพื่อไม่ให้เสียคุณภาพหรือบูดเน่าได้ง่าย
พูดถึงสิ่งของที่เราคุ้นเคยในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในห้องครัวของทุกบ้าน เครื่องปรุงรสถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เช่น เกลือ น้ำตาล พริกไทย น้ำปลา หรือซอสพริก เป็นต้น เครื่องปรุงเหล่านี้ใช้แทบทุกวันในทุกมื้ออาหาร แต่ในความเป็นจริงแล้ว หลายคนยังไม่รู้วิธีเก็บรักษาที่ถูกต้อง

หลายคนมักเก็บเครื่องปรุงไว้ในตู้เย็น เพราะเชื่อว่าจะช่วยยืดอายุ ป้องกันความเสียหาย และรักษาคุณภาพให้เหมือนเดิมอยู่เสมอ แต่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ไม่ใช่เครื่องปรุงทุกชนิดที่เหมาะสมหรือจำเป็นต้องเก็บในตู้เย็น

พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ตู้เย็นอาจไม่ใช่สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมที่สุดในการเก็บเครื่องปรุงรสเสมอไป บางครั้งอาจให้ผลตรงข้ามเสียด้วยซ้ำ ดังนั้นผู้ใช้ควรศึกษาวิธีเก็บรักษาที่เหมาะกับเครื่องปรุงแต่ละประเภท

🧈 เครื่องปรุงที่ “ควร” เก็บในตู้เย็น

ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลวินมิคแนะนำว่า เครื่องปรุงที่ควรเก็บในตู้เย็น ได้แก่ เครื่องปรุงที่มีส่วนผสมของนม เนย หรือชีส เช่น ครีมเปรี้ยว น้ำสลัดสำเร็จรูป หรือซอสที่มีส่วนผสมของผลิตภัณฑ์จากนม

หากเก็บไว้ในอุณหภูมิห้อง โดยเฉพาะในช่วงอากาศร้อน เครื่องปรุงเหล่านี้อาจเสื่อมคุณภาพหรือเสียได้ง่าย ควรเก็บในส่วนชั้นในของตู้เย็น ไม่ควรวางที่ประตูตู้เย็นซึ่งอุณหภูมิไม่คงที่

ส่วนเครื่องปรุงอย่างมัสตาร์ด น้ำส้มสายชู หรือไวน์แดง ถึงแม้ไม่จำเป็นต้องแช่เย็น แต่การเก็บในตู้เย็นก็ไม่เป็นปัญหา สามารถวางไว้บริเวณประตูตู้เย็นได้ โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมคือประมาณ 4–5°C

🧂 เครื่องปรุงที่ “ไม่จำเป็น” ต้องเก็บในตู้เย็น

เครื่องปรุงทั่วไป เช่น ผงปรุงรส ผงชูรส เกลือ น้ำตาล ไม่จำเป็นต้องแช่ในตู้เย็น การเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องก็เพียงพอแล้ว

หากเก็บไว้ในตู้เย็นใกล้ของเปียกหรืออาหารอื่น อาจทำให้เครื่องปรุงดูดความชื้น เกิดการจับตัวเป็นก้อนหรือชื้นแฉะ ทำให้เสียรสชาติและคุณภาพได้

เพียงแค่เก็บไว้ในที่แห้ง เย็น และพ้นแสงแดดโดยตรง ปิดฝาให้แน่นเพื่อป้องกันอากาศและแมลง ก็เพียงพอแล้ว

🍯 เครื่องปรุงอื่นที่หลายคนเข้าใจผิด

เครื่องปรุงอย่างน้ำผึ้ง ซอสมะเขือเทศ หรือซอสพริก หลายบ้านนิยมเก็บในตู้เย็น แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าไม่จำเป็นเลย

• ซอสมะเขือเทศและซอสพริก หากแช่เย็นอาจทำให้เนื้อซอสจับตัวเป็นก้อน แข็ง และเทออกยาก

• ส่วนน้ำผึ้ง เมื่ออยู่ในอุณหภูมิต่ำจะตกผลึกและข้นขึ้นเร็วกว่าปกติ ทำให้คุณภาพลดลง ทั้งที่จริงน้ำผึ้งมีความเป็นกรดและมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียตามธรรมชาติ จึงไม่จำเป็นต้องแช่เย็นเลย
  
  
  

🕒 วิธีดูวันหมดอายุของเครื่องปรุงรส

เว็บไซต์ Healthline แนะนำว่า ควรดูตามประเภทของเครื่องปรุงรส เช่น เครื่องปรุงชนิดผงหรือบดแล้ว มักมีอายุการใช้งาน 2–3 ปี นับจากวันที่เปิดใช้ครั้งแรก ถ้าเก็บดีอาจอยู่ได้นานถึง 4 ปี

เครื่องปรุงชนิดเมล็ดหรือยังไม่บด เช่น พริกไทยเม็ด จะเก็บได้นานกว่า เพราะมีพื้นที่สัมผัสอากาศและความชื้นน้อยกว่า

แต่มีเครื่องปรุงหนึ่งชนิดที่ถือเป็น “ข้อยกเว้น” คือ เกลือ — สามารถเก็บไว้ได้แทบจะไม่มีกำหนด

สำหรับเครื่องปรุงที่บรรจุในขวดหรือซองสำเร็จรูป ควรอ่านฉลากกำกับและวันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์ให้ชัดเจน เพื่อให้ใช้งานได้ในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดหลังเปิดฝา