หยุดก่อนนอน! นักวิจัยเตือน "แสงสว่างยามค่ำคืน" คือภัยเงียบ ทำลายหัวใจ แค่เปิดไฟแรง หรือเล่นมือถือ ก็เพิ่มความเสี่ยง หัวใจวาย-หัวใจล้มเหลว 56%

งานวิจัยใหม่ได้ค้นพบว่า การสัมผัสกับ แสงสว่างจ้าในเวลากลางคืน อาจเพิ่มความเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญต่อการเกิดปัญหาสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดที่รุนแรง รายงานนี้อ้างอิงจากสื่อต่างประเทศ Daily Express ของอังกฤษที่ได้เผยแพร่ออกมา

ปัญหาสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดที่ว่านั้น รวมถึงอาการหัวใจวาย ภาวะหลอดเลือดสมอง และแม้กระทั่งภาวะหัวใจล้มเหลว นักวิจัยจาก Flinders University ในออสเตรเลียได้ค้นพบความเชื่อมโยงที่น่าเป็นห่วงนี้ หลังจากการวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพของผู้เข้าร่วมเกือบ 89,000 คนจากทั่วสหราชอาณาจักร

งานวิจัยชี้ "แสงสว่างยามค่ำคืน" คือปัจจัยเสี่ยงอิสระ

ผู้เข้าร่วมงานวิจัยถูกติดตามเป็นเวลาประมาณ 10 ปี โดยใช้อุปกรณ์ที่สวมใส่บริเวณข้อมือ ซึ่งบันทึกการสัมผัสกับแสงสว่างรวมกว่า 13 ล้านชั่วโมงในช่วงเวลาดังกล่าว ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า ผู้ที่สัมผัสกับแสงสว่างจ้าที่สุดในเวลากลางคืน มีความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลวสูงขึ้นถึง 56% และมีโอกาสเป็นโรคหัวใจวายสูงขึ้นถึง 47%

ความเสี่ยงเหล่านี้ยังคงมีนัยสำคัญ แม้จะมีการนำปัจจัยอื่น ๆ เช่น กิจกรรมทางกาย พันธุกรรม และโภชนาการ มาพิจารณาแล้วก็ตาม ดร. แดเนียล วินเดรด (Daniel Windred) ผู้เขียนนำและนักวิจัยจาก Flinders University กล่าวว่า นี่คือการศึกษาขนาดใหญ่ครั้งแรกที่แสดงให้เห็นว่า การสัมผัสกับแสงสว่างในเวลากลางคืนเพียงอย่างเดียว เป็นปัจจัยเสี่ยงที่แข็งแกร่งและเป็นอิสระต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด

ดร. วินเดรด ยังระบุอีกว่า การรบกวนนาฬิกาชีวภาพภายในร่างกาย ด้วยการสัมผัสกับแสงสว่างจ้าอย่างต่อเนื่องในเวลากลางคืน ซึ่งเป็นเวลาที่ควรจะมืด จะทำให้คุณมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดปัญหาสุขใจที่รุนแรงมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เขาทิ้งท้ายว่า เราสามารถควบคุมการสัมผัสแสงในเวลากลางคืนได้ในระดับหนึ่ง

การปรับพฤติกรรมเพื่อลดความเสี่ยง

เราสามารถลดความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับแสงสว่างในเวลากลางคืน ได้โดยใช้ม่านกันแสง ลดความสว่างของหลอดไฟ และหลีกเลี่ยงการใช้หน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนเข้านอน ศาสตราจารย์ แอนดรูว์ ฟิลลิปส์ (Andrew Phillips) ผู้ร่วมเขียนงานวิจัยกล่าวเสริมว่า นิสัยในชีวิตประจำวัน เช่น การเล่นโทรศัพท์มือถือบนเตียง หรือการเผลอหลับไปในขณะที่หรือไฟห้องยังเปิดอยู่ อาจทำให้คุณสัมผัสกับระดับแสงที่อาจเป็นอันตราย

มูลนิธิหัวใจแห่งอังกฤษ (British Heart Foundation) เปิดเผยว่า มีชาวอังกฤษกว่าหนึ่งล้านคนที่ต้องต่อสู้กับภาวะหัวใจล้มเหลว และมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลประมาณ 100,000 รายต่อปีจากอาการหัวใจวาย แม้ว่าจะมีหลายปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะสุขภาพเหล่านี้ แต่พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพและการสูบบุหรี่ ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญ

จากผลการวิจัยใหม่นี้ นักวิทยาศาสตร์หลายคนจึงเชื่อว่า การสัมผัสกับแสงสว่างในเวลากลางคืน ก็ควรถูกจัดเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญเช่นเดียวกัน ทีมวิจัยในออสเตรเลียจึงกำลังเรียกร้องให้มีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางการจัดแสงสว่างสำหรับที่อยู่อาศัย โรงพยาบาล และในเขตเมืองต่าง ๆ

อาการสำคัญที่อาจบ่งชี้ถึงภาวะหัวใจวาย

ภาวะหัวใจวายถือเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่รุนแรง ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อการไหลเวียนของเลือดไปยังหัวใจถูกปิดกั้นอย่างกะทันหัน โดยส่วนใหญ่มักเกิดจากลิ่มเลือด ตามข้อมูลขององค์การบริการสุขภาพแห่งชาติอังกฤษ (NHS) ภาวะนี้สามารถนำไปสู่อาการต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

1. ไอ หรือมีอาการหายใจมีเสียงหวีด
2. เจ็บหน้าอก – รู้สึกเหมือนถูกกดทับ หนัก อึดอัด หรือบีบรัดอย่างรุนแรงที่หน้าอก
3. รู้สึกคลื่นไส้ หรืออาเจียนออกมา
4. รู้สึกวิตกกังวลอย่างรุนแรง (คล้ายกับอาการตื่นตระหนก)
5. หายใจลำบาก

นอกจากนี้ อาจมีอาการปวดในส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย โดยความเจ็บปวดอาจแผ่จากหน้าอกไปยังแขน (มักจะเป็นแขนซ้าย แต่อาจส่งผลกระทบต่อทั้งสองข้าง) ไปยังขากรรไกร คอ หลัง และช่องท้อง อาการอื่น ๆ ที่พบได้คือ การรู้สึกมึนงง วิงเวียนศีรษะ หรือมีเหงื่อออกมาก

หากคุณสงสัยว่ากำลังมีอาการหัวใจวาย ควรรีบโทรเรียกบริการฉุกเฉินทันที เพราะการดำเนินการที่รวดเร็ว จะเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตได้มาก แนวทางอย่างเป็นทางการของ NHS ระบุว่า อาการเจ็บหน้าอกมักจะรุนแรงมาก แต่บางคนอาจรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

แม้ว่าอาการที่พบบ่อยที่สุดคืออาการเจ็บหน้าอก แต่อาการอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล บางรายอาจมีเพียงสัญญาณอื่น ๆ เช่น หายใจลำบาก คลื่นไส้ อาเจียน ปวดหลัง หรือปวดกราม โดยที่ไม่มีอาการเจ็บหน้าอกเลยก็เป็นได้