ร่างกายมีอาการ 7 อย่างนี้ต่อเนื่อง — อาจเป็นสัญญาณของ “ม.ะเ.ร็.งร้าย” ควรรีบตรวจโดยเร็วที่สุด

มะเร็งร้ายแรงไม่ได้เกิดขึ้นแบบฉับพลันโดยไม่มีสัญญาณเตือน ร่างกายของเรามักส่ง “สัญญาณขอความช่วยเหลือ” มานานแล้ว เพียงแต่หลายคนมองข้ามไปหรือเข้าใจผิดว่าเป็นอาการป่วยเล็กน้อยทั่วไป

ตัวอย่างจริง

คุณจางรู้สึกอ่อนแรง เหนื่อยง่าย เหงื่อออกแม้เดินเพียงไม่กี่ก้าว ทั้งที่กินได้ตามปกติแต่น้ำหนักลดลงเรื่อยๆ ตอนกลางคืนมักมีเหงื่อออกจนหมอนเปียก ครอบครัวคิดว่าเป็นเพราะอายุที่มากขึ้น แต่เมื่อวันหนึ่งเขาพบก้อนเล็กๆ ใต้รักแร้ที่กดแล้วเจ็บ จึงไปโรงพยาบาลตรวจ พบว่าเป็น “มะเร็งร้าย”

แพทย์เตือนว่า หากรู้สัญญาณเหล่านี้แต่เนิ่นๆ อาจช่วยให้รักษาทันเวลาได้

---

7 อาการ “สัญญาณแดง” ที่ไม่ควรมองข้าม

1. น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ

หากในช่วง 3–6 เดือน น้ำหนักลดลงกว่า 5 กิโลกรัม ทั้งที่อาหารและการออกกำลังกายเหมือนเดิม ต้องระวัง เพราะมีรายงานว่ากว่า 66% ของผู้ป่วยมะเร็ง เคยมีภาวะน้ำหนักลดอย่างรวดเร็วมาก่อน เนื่องจากเนื้องอกใช้พลังงานสูง ทำให้ร่างกายซูบผอมผิดปกติ

2. มีไข้ต่ำหรือเหงื่อออกกลางคืนโดยไม่มีสาเหตุ

ไข้ต่ำเรื้อรังหรือเหงื่อออกกลางคืนมากโดยไม่เกี่ยวกับการติดเชื้อ มักเกี่ยวข้องกับมะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งตับ หรือมะเร็งชนิดอื่นๆ กว่า 35% ของผู้ป่วยมะเร็งระยะต้น มีอาการเหล่านี้

3. ผิวหนังเปลี่ยนสี เหลือง คัน หรือมีจุดดำผิดปกติ

ผิวเหลืองคล้ำ คัน หรือมีจุดสีเข้มโดยไม่ทราบสาเหตุ อาจเกี่ยวข้องกับโรคในระบบตับและทางเดินน้ำดี โดยประมาณ 39% ของผู้ป่วยมะเร็งตับ จะมีการเปลี่ยนแปลงของผิวในระยะเริ่มแรก

4. มีก้อนหรือเนื้องอกที่ไม่ยุบ

หากพบก้อนแข็งที่คอ รักแร้ หรือหน้าอก ซึ่งไม่เจ็บแต่ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ควรสงสัยมะเร็งร้ายแรง กว่า 40–50% ของผู้ป่วยมะเร็ง พบก้อนเป็นอาการแรกเริ่ม

5. เหนื่อยง่าย อ่อนเพลียโดยไม่มีเหตุผล

อ่อนแรงเรื้อรังหลายสัปดาห์โดยไม่พบสาเหตุอื่น อาจเกี่ยวข้องกับภาวะโลหิตจางหรือระบบเมตาบอลิซึมผิดปกติจากมะเร็ง กว่า 60% ของผู้ป่วยมะเร็งระยะเริ่มต้น รายงานว่าเคยมีอาการเหนื่อยผิดปกติ

6. ระบบทางเดินอาหารผิดปกติเรื้อรัง

มีอาการแน่นท้อง คลื่นไส้ เรอบ่อย เบื่ออาหาร น้ำหนักลดลงอย่างช้าๆ อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของมะเร็งกระเพาะอาหาร ลำไส้ หรือทางเดินอาหาร โดย กว่า 33% ของผู้ป่วยมะเร็งระบบทางเดินอาหาร แสดงอาการเหล่านี้ตั้งแต่ระยะแรก

7. มีเลือดออกหรือของเหลวผิดปกติ

เช่น ไอมีเลือดออก ถ่ายมีเลือด ประจำเดือนผิดปกติ หรือมีของเหลวปนเลือดจากช่องคลอด อาจเป็นสัญญาณเตือนมะเร็ง เนื่องจากเนื้องอกอาจกัดกร่อนหลอดเลือด ทำให้เลือดออกซ้ำๆ

---

สิ่งที่ควรทำหากพบอาการเหล่านี้

• อย่าฝืน รีบไปตรวจทันที เพราะ “ลดน้ำหนักกะทันหัน” และ “มีก้อนที่ไม่ทราบสาเหตุ” เป็นสัญญาณเริ่มต้นของมะเร็งหลายชนิด

• หมั่นตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็ง หรืออายุมากกว่า 60 ปี

• ตรวจร่างกายด้วยตนเองเป็นประจำ:

  • คลำบริเวณเต้านม รักแร้ คอ ท้อง เพื่อหาก้อน

  • สังเกตผิวหนังและช่องปาก หากมีไฝโตขึ้นหรือแผลเรื้อรังควรพบแพทย์

  • จดบันทึกน้ำหนักและอุณหภูมิร่างกายทุกเดือน

• หลีกเลี่ยงการวินิจฉัยด้วยตนเอง: อย่าเชื่อเคล็ดลับพื้นบ้านหรือข้อมูลที่ไม่ผ่านการยืนยัน ควรตรวจโดยแพทย์เฉพาะทาง

• ดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน: กินอาหารสมดุล ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เลิกสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ เข้านอนให้เป็นเวลา