Th.thebustednews.com

สุขภาพ 31/10/2025 17:37

แพ.ทย์เปิดชื่อ 5 อาหารที่ก่อนเข้านอน "ไม่กินเด็ดขาด" ไม่ใช่แค่บะหมี่กึ่งฯ อีกอย่างก็ร้.า.ยมา

เช็กด่วน! 5 เมนูอันตรายที่หลายคนชอบกินก่อนนอน หมอชี้เป็น "ผู้ร้ายเงียบ" ทำลายสมอง-ระบบเผาผลาญ 

คุณมีนิสัยชอบกินมื้อดึกหรือไม่? นายแพทย์หลิว โป๋เหริน (Liu Bo-Ren) ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและการแพทย์เชิงหน้าที่จากไต้หวัน เปิดเผยว่า การกินมื้อดึกอย่างไม่เหมาะสมคือ “ผู้ร้ายเงียบ” ที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดแปรปรวน ทำลายกระเพาะอาหาร และทำให้ร่างกายสะสมไขมันได้ง่ายขึ้น

นายแพทย์หลิวกล่าวว่า “ผมแทบจะไม่กินมื้อดึกเลย ก่อนเข้านอนสามชั่วโมง ผมจะไม่กินอะไรเลยนอกจากน้ำเปล่า ด้วยเหตุนี้ จึงสามารถรักษารูปร่างและสุขภาพให้คงที่ได้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา” เขาได้เตือนถึงอาหาร 5 ชนิดที่อันตรายที่สุดสำหรับการกินมื้อดึก ซึ่งมักทำให้หลายคนนอนไม่หลับ น้ำหนักขึ้น หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร

5 เมนูอันตรายที่ควรหลีกเลี่ยง 3 ชั่วโมงก่อนเข้านอน

ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การรับประทานอาหารที่ผิดชนิดในยามค่ำคืนอาจส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวได้ โดยเฉพาะกลุ่มอาหารเหล่านี้ที่คุณควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่งในช่วง 3 ชั่วโมงก่อนเข้านอน

1. ของทอด (เช่น ไก่ทอด เฟรนช์ฟรายส์ เนื้อทอดกรอบ)

อาหารเหล่านี้มีน้ำมันและแคลอรีสูงเกินไป รวมถึงอาจมีไขมันทรานส์ (Trans Fat) ซึ่งเป็นไขมันที่สามารถอุดตันหลอดเลือด และเป็นอันตรายต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดได้หากรับประทานเป็นประจำ การย่อยอาหารประเภทไขมันในช่วงกลางคืนต้องใช้เวลานานและรบกวนการนอนหลับ

2. บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจัดเป็น "ฝันร้าย" ของสุขภาพยามค่ำคืน เพราะมีโซเดียมและน้ำมันสูง แต่มีสารอาหารน้อยมาก เครื่องปรุงรสที่มีปริมาณโซเดียมสูงจะทำให้ร่างกายเกิดภาวะบวมน้ำได้ง่าย และเพิ่มภาระให้กับไตในช่วงที่ควรจะได้พักผ่อน

3. อาหารแปรรูปและหมักดอง (เช่น ไส้กรอก ลูกชิ้น เนื้อสำเร็จรูป)

อาหารแปรรูปเหล่านี้มักมีไนไตรต์และโซเดียม เกินมาตรฐาน ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อตับและไตเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงมะเร็งทางเดินอาหาร หากรับประทานเป็นประจำในระยะยาว

4. ของหวานและเครื่องดื่มรสหวาน (เช่น ชานมไข่มุก เค้ก ไอศกรีม)

เครื่องดื่มและของหวานเหล่านี้ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลรบกวนการหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนของการนอนหลับ ทำให้คุณนอนกระสับกระส่ายตลอดคืน ในระยะยาว อาหารเหล่านี้ยังเพิ่มความเสี่ยงของกลุ่มอาการเมตาบอลิก โรคเบาหวาน และโรคอ้วนอีกด้วย

5. อาหารรสจัดและรสเค็มจัด (เช่น บะหมี่รสเผ็ด หม้อไฟรสเผ็ด อาหารรสจัดจ้าน)

การรับประทานอาหารรสเผ็ดหรือรสเค็มจัดในเวลากลางคืน กระตุ้นกระเพาะอาหารได้ง่าย ทำให้เกิดภาวะกรดไหลย้อน แสบร้อนกลางอก และท้องอืด ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงอายุ และผู้ที่มีปัญหาทางเดินอาหารอยู่แล้ว

ทางเลือกอาหารว่างยามค่ำคืนที่แพทย์แนะนำ

หากคุณรู้สึกหิวจริง ๆ นายแพทย์หลิวแนะนำให้เลือก อาหารว่างที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งจะให้พลังงานที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการนอนหลับของคุณ อาหารเหล่านี้ควรเน้นที่ความเรียบง่ายและคุณค่าทางโภชนาการที่สูง

โยเกิร์ตไม่เติมน้ำตาล + ธัญพืชหรือผลไม้ตระกูลเบอร์รี: ให้โปรตีน โปรไบโอติก และสารต้านอนุมูลอิสระ ดีต่อลำไส้และช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่

มันเทศนึ่งหรือฟักทองอบ: มีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนต่ำและอุดมไปด้วยใยอาหาร ช่วยให้อิ่มนานโดยไม่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ขนมปังโฮลวีท + ไข่ดาวหรืออะโวคาโด: ผสมผสานคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมันดี ช่วยให้ระดับพลังงานคงที่ไปจนถึงเช้า
ถั่วเหลือง เต้าหู้นึ่ง หรือถั่วแระญี่ปุ่น (Edamame): อุดมไปด้วยโปรตีนจากพืช แคลอรีต่ำ แต่อิ่มท้องได้นาน
นมข้าวโอ๊ตหรือนมถั่วเหลืองไม่เติมน้ำตาล: ดื่มอุ่น ๆ ช่วยให้ผ่อนคลาย หลับง่ายขึ้น และช่วยบรรเทาอาการไม่สบายท้องได้
ผลไม้ เช่น กีวี เชอร์รี แอปเปิล: ควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ โดยเฉพาะกีวีและเชอร์รีที่ช่วยให้หลับง่ายขึ้น เนื่องจากมีเมลาโทนินตามธรรมชาติ
นายแพทย์หลิวเน้นย้ำว่า ปริมาณอาหารมื้อดึกไม่ควรเกิน 10% ของแคลอรีรวมในแต่ละวัน และควรกินให้เสร็จ อย่างน้อย 1.5 - 2 ชั่วโมงก่อนเข้านอน เพื่อป้องกันภาวะกรดไหลย้อน นอกจากนี้ ควรให้ความสำคัญกับอาหารที่ผ่านการแปรรูปน้อยที่สุด เพราะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการปกป้องกระเพาะอาหาร หัวใจ และคุณภาพการนอนหลับของคุณ

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่

[email protected]