5 อาหารที่ไม่หวาน แต่ทำให้ระดับน้ำต.าลใ.นเลื.อด "พุ่ง.สูง" ควรกินระวังปาก!

รู้หรือไม่? มีอาหารที่ "ไม่หวาน" แต่กินเข้าไปกลับทำให้ระดับน้ำตาลในเลือด "พุ่งสูง" คนเป็นเบาหวานควรระวัง!

หลายคนอาจเข้าใจว่าเฉพาะอาหารรสหวานเท่านั้นที่ทำให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้น แต่ความจริงแล้วมีอาหารอีกหลายชนิดที่แม้จะไม่หวาน แต่กลับส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดอย่างไม่คาดคิด ผู้ป่วยเบาหวานและผู้ที่ควบคุมระดับน้ำตาลควรระวังอาหารต่อไปนี้

1. ฟักทอง

แม้ฟักทองจะไม่หวานและอุดมด้วยไฟเบอร์ แต่มีค่าดัชนีน้ำตาล (GI) สูงถึง 75 ซึ่งถือว่าอยู่ในกลุ่มอาหารที่มี GI สูง หลังจากรับประทาน ฟักทองจะถูกย่อยและเปลี่ยนเป็นกลูโคสอย่างรวดเร็ว ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงโดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวาน

ฟักทองไม่ใช่อาหารต้องห้าม แต่ควรบริโภคในปริมาณพอเหมาะ และจับคู่กับอาหารที่มี GI ต่ำ เพื่อลดผลกระทบต่อระดับน้ำตาลหลังมื้ออาหาร

2. ชานมไม่หวาน

แม้จะติดฉลากว่า “ไม่ใส่น้ำตาล” แต่ชานมยังคงมีส่วนผสมที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น ครีมเทียม นมผง หรือท็อปปิ้งอย่างไข่มุก วุ้น หรือพุดดิ้ง ซึ่งมักมีการเติมน้ำตาลไว้ก่อนแล้ว

บางร้านยังใช้ มอลโทเดกซ์ทริน ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตที่สามารถดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงภายหลังการดื่ม แม้จะไม่มีรสหวานก็ตาม



3. มันบด

มันฝรั่งมีค่าดัชนีน้ำตาลอยู่ที่ 66 แต่เมื่อบดแล้ว ค่านี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 87! การบดทำให้โครงสร้างแป้งเปลี่ยนไปและย่อยง่ายขึ้น ส่งผลให้กลูโคสเข้าสู่ร่างกายได้เร็ว

นอกจากนี้ มันบดมักมีการเติมนม เนย หรือครีม ทำให้มีไขมันสูง ซึ่งอาจเร่งการดูดซึมและส่งผลเสียต่อผู้ที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

4. แป้งโฮลเกรน

แม้จะเป็นธัญพืชเต็มเมล็ด เช่น แป้งข้าวโพดหรือแป้งงา แต่เมื่อผ่านกระบวนการบดละเอียดและปรุงเป็นของเหลว ลักษณะทางโภชนาการจะเปลี่ยนไป

ไฟเบอร์ที่เคยช่วยชะลอการดูดซึมกลูโคสจะถูกทำลาย ทำให้ร่างกายดูดซึมคาร์โบไฮเดรตเร็วขึ้น ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งคล้ายกับการดื่มน้ำตาลล้วนๆ

5. เบียร์

แม้เบียร์จะมีรสขมและไม่หวาน แต่มีส่วนประกอบของมอลโตสและคาร์โบไฮเดรตจำนวนมาก ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นกลูโคสในร่างกายได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ แอลกอฮอล์ในเบียร์ยังรบกวนการทำงานของตับในการควบคุมระดับกลูโคส และกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะน้ำตาลต่ำในระยะหลัง โดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวาน

การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่สามารถอาศัยแค่การชิมรสหวานเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเข้าใจคุณสมบัติของอาหารในเชิงโภชนาการ โดยเฉพาะ “ดัชนีน้ำตาล (GI)” ซึ่งบ่งชี้ว่าอาหารชนิดใดทำให้ระดับน้ำตาลพุ่งเร็ว

การเลือกอาหารจึงควรพิจารณาทั้งกระบวนการปรุงและองค์ประกอบทางโภชนาการ ไม่ใช่เพียงแค่รสชาติที่รับรู้เท่านั้น!