“ไส้หมู” เป็นของโปรดของใครหลายคน ไม่ว่าจะต้ม ลวก ย่าง หรือทำเป็นก๋วยจั๊บ แต่รู้หรือไม่ว่า แม้ไส้หมูจะอร่อยและให้โปรตีนสูง แต่ก็มีบางกลุ่มคนที่ ควรหลีกเลี่ยงการกินโดยเด็ดขาด เพราะอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว

---

1. ผู้ป่วยโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง

ไส้หมูมีไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอลสูงมาก การรับประทานบ่อยจะทำให้ไขมันในเลือดเพิ่มขึ้น ส่งผลให้หลอดเลือดตีบและหัวใจทำงานหนัก
คำแนะนำ: หากอยากกิน ควรเลือกส่วนที่ไขมันน้อย และกินไม่เกินเดือนละ 1–2 ครั้ง

---

2. ผู้ป่วยโรคตับและถุงน้ำดี

ตับและถุงน้ำดีมีหน้าที่กำจัดไขมันและสารพิษ แต่ไส้หมูที่ล้างไม่สะอาดอาจมีพยาธิหรือสารตกค้าง ทำให้ตับต้องทำงานหนักขึ้น จนอาจเกิดภาวะตับอักเสบหรือถุงน้ำดีอุดตัน

---

3. ผู้ที่มีไขมันในเลือดสูง

ในไส้หมู 100 กรัม มีไขมันมากกว่า 30 กรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่เกินกว่าร่างกายต้องการต่อวัน ผู้ที่มีภาวะไขมันในเลือดสูงอยู่แล้ว หากกินบ่อย จะเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ง่าย

---

4. ผู้ที่มีโรคไต

โปรตีนและไขมันจากเครื่องใน เช่น ไส้หมู ทำให้ไตต้องกรองของเสียมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้ไตเสื่อมเร็วขึ้น โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง

---

5. ผู้ที่มีระบบย่อยอาหารไม่ดี

ไส้หมูเป็นอาหารที่ย่อยยาก หากล้างไม่สะอาดอาจมีแบคทีเรียหรือพยาธิหลงเหลืออยู่ ทำให้เกิดอาการท้องเสีย ปวดท้อง หรืออาหารเป็นพิษได้ง่าย

---

เคล็ดลับสำหรับคนที่ยังอยากกิน

หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควร ล้างไส้หมูให้สะอาดหลายครั้งด้วยเกลือและน้ำส้มสายชู แล้วต้มให้สุกทั่วถึง หลีกเลี่ยงการย่างไหม้หรือทอดในน้ำมันมาก ๆ เพราะจะเพิ่มสารก่อมะเร็ง

---

สรุป

แม้ไส้หมูจะเป็นอาหารที่อร่อยและให้โปรตีนสูง แต่ก็ไม่เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น หัวใจ ตับ ไต หรือไขมันในเลือดสูง ควรกินในปริมาณจำกัดหรือหลีกเลี่ยง เพื่อป้องกันผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว