ใครจะเชื่อว่าอาหารที่คนไทยจำนวนมากมองว่า “อ้วนและไม่ดีต่อสุขภาพ” อย่าง มันหมู จะถูกจัดให้เป็นหนึ่งใน “อาหารที่ดีต่อสุขภาพที่สุดในโลก” ตามรายงานของนักวิทยาศาสตร์นานาชาติที่ตีพิมพ์โดย BBC และองค์กร Global Food Ranking ซึ่งได้จัดอันดับอาหารจากทั่วโลกกว่า 1,000 ชนิดตามคุณค่าทางโภชนาการ

---

มันหมูติดอันดับ 8 ของโลก เพราะอะไร?

ผลการวิเคราะห์ของนักโภชนาการพบว่า “มันหมู” หรือ Pork Fat มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด โดยเฉพาะกรดไขมันไม่อิ่มตัว (Monounsaturated Fat) ซึ่งเป็นไขมันดีต่อหัวใจและระบบหลอดเลือด

นอกจากนี้ยังมีวิตามินและแร่ธาตุสำคัญ เช่น

• วิตามิน B ช่วยเสริมการทำงานของระบบประสาท

• แร่ซีลีเนียม (Selenium) ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ

• กรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6 ที่จำเป็นต่อสมองและผิวพรรณ

---

ความจริงที่หลายคนไม่รู้เกี่ยวกับมันหมู

• ไขมันในมันหมูมี ไขมันดี (HDL) มากกว่าไขมันเลว (LDL) เมื่อเทียบกับน้ำมันบางชนิด

• หากบริโภคในปริมาณพอเหมาะ มันหมูสามารถช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

• นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ระบุว่า ไขมันหมูมีโครงสร้างโมเลกุลคล้ายไขมันมะกอกในบางส่วน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ

---

คำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ

ถึงแม้มันหมูจะมีประโยชน์ แต่ก็ไม่ควรบริโภคมากเกินไป เพราะยังคงมีพลังงานสูง

• กินในปริมาณไม่เกิน 2 ช้อนโต๊ะต่อวัน

• หลีกเลี่ยงการทอดซ้ำหรือไหม้ เพราะอาจเกิดสารก่อมะเร็ง

• ควรเลือกมันหมูจากแหล่งสะอาด ปลอดสารเร่งโต

---

สรุป

การศึกษานี้ช่วย “พลิกความเชื่อเดิม” ที่ว่ามันหมูคืออาหารอันตราย เพราะในความเป็นจริง หากกินในปริมาณพอเหมาะและปรุงอย่างถูกวิธี มันหมูก็สามารถเป็นแหล่งไขมันดีที่มีคุณค่าทางอาหารสูง และช่วยเสริมสุขภาพได้เช่นกัน