ขนมจีนเป็นอาหารยอดนิยมของคนไทย เพราะกินได้กับหลากหลายเมนู เช่น น้ำยา แกงเขียวหวาน หรือส้มตำ แต่รู้หรือไม่ว่า “ขนมจีนบางเจ้าที่ดูขาวสะอาดน่ากิน” อาจไม่ปลอดภัยอย่างที่คิด เพราะอาจมีการ ใส่สารฟอกขาวหรือสารกันบูดเกินมาตรฐาน เพื่อให้ดูขาวสวยและเก็บได้นาน

---

ทำไมขนมจีนบางเจ้าถึงไม่ปลอดภัย

ในขั้นตอนการผลิต ขนมจีนจะต้องผ่านกระบวนการหมักและต้ม ซึ่งหากไม่สะอาดอาจเกิดกลิ่นหรือสีหม่นลง ผู้ผลิตบางรายจึงใช้สารเคมีอย่าง

• ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide) เพื่อฟอกให้เส้นขาว

• สารกันบูด (Benzoic Acid, Sorbic Acid) เพื่อยืดอายุการเก็บ

แม้จะทำให้ขนมจีนดูสะอาด แต่การบริโภคสารเหล่านี้สะสมในร่างกายอาจก่อให้เกิดอันตราย เช่น ระคายเคืองกระเพาะอาหาร ทำลายตับ หรือเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังในระยะยาว

---

3 วิธีเช็กขนมจีนปลอดภัยก่อนซื้อ

1. สังเกต “สี” ของเส้นขนมจีน

ขนมจีนที่ปลอดภัยจะมีสีขาวขุ่นตามธรรมชาติ ไม่ขาวจัดหรือขาวสว่างจนผิดปกติ เพราะนั่นอาจผ่านการฟอกด้วยสารเคมี

2. ดม “กลิ่น” ก่อนซื้อ

ถ้ามีกลิ่นฉุนแปลก ๆ หรือกลิ่นเคมีเหมือนน้ำยา ให้หลีกเลี่ยงทันที เพราะอาจเป็นกลิ่นของสารกันบูดหรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์

3. สัมผัส “เนื้อเส้น”

เส้นขนมจีนที่ปลอดภัยจะนุ่ม ลื่น แต่ไม่มันเยิ้ม หากเส้นแข็งหรือมันเกินไป อาจเกิดจากการผสมสารเคมีเพื่อรักษารูปร่างเส้น

---

เคล็ดลับเลือกขนมจีนให้ปลอดภัย

• ซื้อจากร้านที่ผลิตสดใหม่และเก็บในภาชนะสะอาด

• หลีกเลี่ยงขนมจีนที่แช่น้ำไว้นานหรือวางในที่โล่งกลางแดด

• หากทำกินเองได้ ควรใช้ข้าวหมักธรรมชาติหรือซื้อจากแหล่งชุมชนที่น่าเชื่อถือ

---

สรุป

แม้ขนมจีนจะเป็นอาหารบ้าน ๆ ที่กินง่ายและอร่อย แต่ก็ควรใส่ใจเรื่องความสะอาดและแหล่งที่มา เพราะ ขนมจีนที่ดูขาวสะอาดอาจซ่อนสารเคมีอันตรายไว้โดยไม่รู้ตัว