แช่เส้นขนมจีนลงในถ้วยน้ำปลา หลังจากผ่านไป 2 นาที จะรู้ได้ทันทีว่าเส้นขนมจีนสะอาดหรือมีส่วนผสมของบอแรกซ์

หากรู้เคล็ดลับนี้ คุณจะสามารถหลีกเลี่ยงการกินขนมจีนที่มีสารบอแรกซ์ ซึ่งเป็นสารพิษอันตรายต่อสุขภาพได้

🔹 ตรวจสอบความสะอาดของขนมจีนด้วยน้ำปลา

วิธีทำ:
ขั้นตอนที่ 1: เทน้ำปลาลงในถ้วยในปริมาณพอเหมาะ
ขั้นตอนที่ 2: ใส่เส้นขนมจีนลงไปเล็กน้อย จากนั้นคลุกให้เข้ากันและสังเกตการเปลี่ยนแปลง

• ถ้าเส้นขนมจีนดูดน้ำปลาเร็วและเริ่มนุ่ม แสดงว่าเป็นขนมจีนสะอาด เพราะทำจากแป้งบริสุทธิ์ที่ดูดซึมน้ำได้ดี

• แต่ถ้าผ่านไปสองสามนาทียังเห็นเส้นขนมจีนแห้ง มันวาว และไม่ดูดน้ำ แสดงว่ามีการผสมสารเคมี โดยเฉพาะบอแรกซ์ที่ทำให้เส้นเหนียวและกรอบ

---

🔹 วิธีอื่นในการตรวจสอบคุณภาพขนมจีน

1. ดูจากสีของเส้นขนมจีน

• ขนมจีนที่ทำจากข้าวแท้จะมีสีขาวขุ่นหรือขาวอมเทา

• ถ้าเส้นขาวใส มันเงา แสดงว่าอาจมีการผสมสารกันบูดหรือบอแรกซ์

• เส้นที่ไม่ผสมสารเคมีจะค่อนข้างนุ่ม ขาดง่าย และเมื่อสัมผัสจะรู้สึกเหนียวเล็กน้อย

• เส้นที่มีบอแรกซ์จะเหนียวแน่น ยืดหยุ่นมาก และไม่ให้ความรู้สึกนุ่มเหนียวแบบแป้งข้าว

2. กลิ่นของขนมจีน

• ขนมจีนแท้ไม่ผสมสารเคมีจะมีกลิ่นเปรี้ยวอ่อน ๆ เป็นธรรมชาติของข้าวหมัก

• ถ้าขนมจีนไม่มีกลิ่นเปรี้ยวเลย โดยเฉพาะเมื่อวางไว้ทั้งวันในอุณหภูมิสูง อาจมีการใช้บอแรกซ์หรือสารกันเสียเกินขนาด

• ขนมจีนแท้เมื่อกินจะรู้สึกถึงรสแป้งข้าวธรรมชาติคล้ายข้าวสุก และหากเก็บไว้นานหรือข้ามวันจะเริ่มเปรี้ยวและเสีย

• หากขนมจีนเก็บได้ 2–3 วันโดยไม่เสีย และไม่มีรสชาติ แสดงว่าใช้สารเคมีเกินปริมาณ

3. ใช้ขมิ้นตรวจสอบ

• หากใช้ผงขมิ้นแตะที่เส้นขนมจีนแล้วเปลี่ยนเป็นสีเทา แสดงว่าเส้นมีบอแรกซ์

---

🔹 คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ

ผู้เชี่ยวชาญเตือนให้ผู้บริโภคระวังผลิตภัณฑ์ขนมจีน เส้นหมี่ หรืออาหารเส้นสดที่มีสีขาวและเงาเกินปกติ โดยสามารถใช้ ไฟแบล็กไลต์ (หลอดตรวจธนบัตร) ส่องดูได้ ถ้าเส้นเปล่งแสง แสดงว่ามีสารเรืองแสง Tinopal (สารฟอกขาวเรืองแสง)

สารนี้หากสะสมในร่างกายจะเป็นอันตรายอย่างมาก โดยเฉพาะระบบย่อยอาหาร เยื่อบุลำไส้ และกระเพาะอาหาร อีกทั้งยังทำลายตับ ไต ระบบประสาท และอาจทำให้เกิดการกลายพันธุ์ของเซลล์ เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง

ดังนั้น แม่บ้านควรเลือกซื้อขนมจีนและเส้นก๋วยเตี๋ยวอย่างรอบคอบ เพื่อหลีกเลี่ยงการบริโภคสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของครอบครัวค่ะ