ในช่วงอากาศร้อนอบอ้าว แอร์กลายเป็นสิ่งจำเป็นแทบจะขาดไม่ได้ โดยเฉพาะเวลากลางคืนที่หลายคนต้องเปิดแอร์นอนเพื่อให้หลับสบาย แต่ปัญหาที่ตามมาคือค่าไฟฟ้าที่พุ่งสูงจนน่าตกใจ หลายคนจึงเชื่อว่าการตั้งอุณหภูมิที่ 28 องศาเซลเซียส จะช่วยประหยัดพลังงานได้มากที่สุด แต่ในความเป็นจริงแล้ว ความเข้าใจนี้อาจ “ผิด” โดยไม่รู้ตัว!

แม้ 28 องศาจะดูเป็นอุณหภูมิที่ไม่เย็นเกินไปและไม่น่าทำให้แอร์ทำงานหนัก แต่ถ้าเปิดในตอนกลางคืน ร่างกายของเราซึ่งมีอุณหภูมิลดลงเองตามธรรมชาติ อาจรู้สึกอึดอัด เหงื่อออก และนอนหลับไม่สนิท จนต้องเปิดพัดลมหรือปรับลดอุณหภูมิลงในภายหลัง ซึ่งสุดท้ายกลับทำให้เปลืองไฟมากกว่าเดิม

🌙 ทำไมอุณหภูมิ 28 องศาไม่เหมาะกับตอนกลางคืน?

นักวิทยาศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงานอธิบายว่า ตอนกลางคืน ร่างกายของคนเราจะปรับอุณหภูมิภายในให้ลดลงประมาณ 1 องศา เพื่อเตรียมเข้าสู่ช่วงพักผ่อน หากอุณหภูมิภายนอก (ในห้องนอน) สูงเกินไป สมองจะรับสัญญาณว่าร่างกายยังไม่ถึงเวลานอน ทำให้หลับยากและหลับไม่ลึก

นอกจากนี้ แอร์ที่ตั้งไว้ที่ 28 องศามักต้องทำงานต่อเนื่องนานกว่าจะถึงระดับความเย็นที่ตั้งไว้ ซึ่งทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานนานขึ้นโดยไม่จำเป็น จึงไม่ได้ช่วยประหยัดไฟอย่างที่หลายคนเข้าใจ

🧊 แล้วอุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดควรตั้งเท่าไร?

ผู้เชี่ยวชาญจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แนะนำว่า อุณหภูมิที่เหมาะสมและประหยัดไฟในตอนกลางคืนควรอยู่ระหว่าง 25–26 องศาเซลเซียส ร่วมกับการเปิดโหมด “Sleep” หรือ “Eco” ที่มีในเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ ซึ่งระบบจะค่อย ๆ ปรับอุณหภูมิให้สูงขึ้นทีละน้อยเมื่อร่างกายเข้าสู่ช่วงหลับลึก ทำให้รู้สึกสบายและช่วยลดการใช้พลังงานได้จริง

หากต้องการประหยัดไฟมากยิ่งขึ้น ควรเปิดพัดลมเบา ๆ ช่วยกระจายลมเย็นทั่วห้อง แทนที่จะปรับแอร์ให้เย็นจัด เพราะพัดลมใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยกว่าแอร์หลายเท่า

⚙️ เคล็ดลับง่าย ๆ ช่วยลดค่าไฟจากแอร์

1. ทำความสะอาดแผ่นกรองแอร์ทุก 2 สัปดาห์ เพื่อให้ลมไหลเวียนดีและเครื่องไม่ทำงานหนัก

2. ปิดประตู หน้าต่างให้สนิท ป้องกันอากาศร้อนจากภายนอกเข้ามา

3. ใช้ม่านกันความร้อน โดยเฉพาะในห้องที่โดนแดดจัดในตอนกลางวัน

4. อย่าวางสิ่งของขวางช่องลมของแอร์ เพราะจะทำให้ลมไม่กระจายทั่วห้อง

5. ตั้งเวลาเปิด–ปิดอัตโนมัติ (Timer) หากไม่ต้องการเปิดแอร์ตลอดคืน
   

💤 ทำไมการนอนในห้องที่อุณหภูมิเหมาะสมถึงสำคัญ?

การนอนในห้องที่เย็นเกินไปหรือร้อนเกินไปส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับโดยตรง ห้องที่เย็นเกินไปอาจทำให้หลอดเลือดหดตัว ระบบไหลเวียนเลือดทำงานผิดปกติ ขณะที่ห้องที่ร้อนเกินไปทำให้หัวใจเต้นเร็วและเหงื่อออกมากจนร่างกายพักผ่อนไม่เต็มที่

การตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสมไม่เพียงช่วยประหยัดไฟ แต่ยังช่วยให้ระบบร่างกายทำงานเป็นปกติ สมองได้พักผ่อนเต็มที่ และตื่นเช้าขึ้นมาสดชื่นกว่าการนอนในห้องที่เย็นจัดหรืออุ่นเกินไป

✅ สรุป

การเปิดแอร์ที่ 28 องศาอาจไม่ได้ช่วยให้ประหยัดไฟอย่างที่คิด แต่อาจทำให้เครื่องทำงานหนักและนอนหลับไม่สบาย อุณหภูมิที่เหมาะสมจริง ๆ สำหรับตอนกลางคืนคือ 25–26 องศาเซลเซียส พร้อมเปิดโหมด Sleep หรือใช้พัดลมช่วยกระจายลม จะช่วยทั้งลดค่าไฟและดูแลสุขภาพได้ในเวลาเดียวกัน

จำไว้ว่าการใช้แอร์อย่างฉลาด ไม่ใช่แค่เรื่อง “ความเย็น” แต่เป็นเรื่องของ “สุขภาพและความคุ้มค่าในระยะยาว” ❄️💤