แม่ด่าหมอวินิ.จ.ฉัยผิ.ด ป่วยม.ะ.เ.ร็.งทั้งบ้าน 3 คน ถูกความจริงต.บห.น้า นั่งร้องไห้หน้าตู้เย็น

แม่ด่าหมอวินิจฉัยผิด ไม่เชื่อครอบครัวจะป่วยมะเร็งทั้ง 3 คน รู้ความจริงนั่งร้องไห้หน้าตู้เย็น แหล่งเพาะเชื้อโรคร้ายมาจากตัวเอง

นายแพทย์หลิว เคอติง ผู้เชี่ยวชาญด้านโลหิตวิทยาจากโรงพยาบาล Linkou Chang Gung เมืองไทเป ไต้หวัน เตือนว่าตู้เย็นถึงจะดีและสะดวก แต่หากใช้งานผิดวิธีอาจนำไปสู่โรคร้ายได้ ตู้เย็นไม่ใช่อุปกรณ์อเนกประสงค์ที่จะเก็บอะไรก็ได้ เพราะอาหารบางชนิดเมื่อเก็บไว้นานหรือทิ้งไว้ข้ามคืน แม้จะแช่ตู้เย็นก็ยังเสี่ยง “เลี้ยงเชื้อมะเร็ง” ได้

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงกับครอบครัวหนึ่งในไทเป ประเทศไต้หวัน ซึ่งสมาชิกทั้งสามคนในบ้านต่างตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง เริ่มจากคุณพ่อที่ไปตรวจสุขภาพเพื่อใช้ประกอบงาน และถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคตับอักเสบและมะเร็งกระเพาะอาหาร ไม่นานนัก คุณแม่และลูกสาวก็เริ่มมีอาการผิดปกติ และตัดสินใจไปตรวจร่างกายพร้อมกัน ผลปรากฏว่า ทั้งสองแม่ลูกต่างก็มีเนื้องอกมะเร็งในกระเพาะอาหารเช่นกัน

ในตอนแรก ผู้เป็นแม่โกรธมาก เพราะเธอเชื่อมาตลอดว่าสามีป่วยเพราะงานที่ต้องดื่มเหล้าและกินดึกเป็นประจำ อีกทั้งไม่มีใครในครอบครัวของทั้งสองฝ่ายมีประวัติเป็นมะเร็ง จึงไม่เข้าใจว่าทำไมทั้งสามคนจากสองรุ่นจึงป่วยด้วยโรคเดียวกัน

เธอเสียสติและต่อว่าแพทย์อย่างรุนแรง หาว่าทำการวินิจฉัยผิด แต่เมื่อทำการตรวจเพิ่มเติมและสอบถามรายละเอียดพฤติกรรมการใช้ชีวิต ความจริงก็ถูกเปิดเผยว่า อาหารที่กินทุกวัน คือสาเหตุหลัก

หญิงคนนี้เป็นคนดูแลเรื่องอาหารในบ้าน และเมื่อทราบความจริง ก็โกรธแพทย์อีกครั้ง แต่เมื่อได้รับคำอธิบายอย่างละเอียด เธอก็เริ่มเข้าใจ เมื่อตั้งสติได้และกลับถึงบ้าน เธอก็เปิดตู้เย็น แล้วนั่งร้องไห้อย่างหนัก โทษตัวเองว่าเป็นต้นเหตุทำให้ทั้งครอบครัวป่วย

สารก่อมะเร็งที่ซ่อนอยู่ในตู้เย็น

แท้จริงแล้ว ตู้เย็นไม่ผิด แต่ความผิดอยู่ที่การใช้งานผิดวิธีของแม่บ้านคนนี้

เนื่องจากบ้านมีสมาชิกน้อย และทุกคนก็ยุ่ง เธอมักจะทำอาหารจำนวนมากแล้วแบ่งใส่กล่องแช่ตู้เย็นไว้ ใครจะกินก็เอามาอุ่นให้สะดวก นอกจากนี้ยังชอบซื้อผลไม้ที่มีตำหนิ ถูกแมลงกัด หรือมีราขึ้นจากตลาด เพราะราคาถูกมาก แล้วนำมาเก็บไว้เต็มตู้เย็น เธอคิดว่าแค่ตัดส่วนเสียทิ้งแล้วล้างให้สะอาดก็พอ

แต่แพทย์หลิวเตือนว่า อาหารเหล่านี้เสี่ยงสูงต่อการเกิดมะเร็ง โดยเฉพาะผลไม้หรืออาหารที่ขึ้นรา ซึ่งมักมีเชื้อรา Aspergillus flavus ที่สร้างสารพิษอะฟลาทอกซิน (aflatoxin) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งร้ายแรง จัดอยู่ในกลุ่ม 1 โดยองค์การอนามัยโลก แม้จะตัดส่วนเสียออกก็ไม่สามารถกำจัดสารพิษได้หมด

เธอยังยอมรับอีกว่า ในตู้เย็นมักมีผักสุกที่เก็บข้ามคืน ไข่ต้ม และอาหารทะเล เพราะคิดว่าดีต่อสุขภาพและทุกคนในบ้านก็ชอบ

แต่แพทย์หลิวเตือนว่า ผักสุกที่เก็บไว้ข้ามคืน แม้จะแช่ตู้เย็นก็ยังเกิดการสะสมของไนไตรต์ ซึ่งเมื่อเข้าสู่ร่างกายจะรวมตัวกับกรดในกระเพาะเป็นไนโตรซามีน (nitrosamine) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งได้เช่นกัน ผักที่เก็บไว้นานก็จะเสื่อมคุณภาพและหากอุ่นไม่ทั่วถึงยังอาจทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษ

อาหารทะเลและไข่ต้มที่แช่ข้ามคืนก็มีความเสี่ยงสูง หากแช่ไม่เหมาะสม อาหารทะเลจะเกิดสารฮิสตามีน (histamine) ที่ทำให้เกิดอาการแพ้ อาเจียน หรือระคายเคืองลำไส้ และหากบริโภคสะสมอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งระบบย่อยอาหาร ส่วนไข่ต้มที่ทิ้งไว้นานอาจปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียอย่าง Salmonella ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการท้องเสีย ปวดท้อง หรือการติดเชื้อรุนแรง

แพทย์หลิวหวังว่าเหตุการณ์เศร้านี้จะเป็นบทเรียนเตือนใจให้กับทุกคน อย่าประมาทหรือประหยัดแบบผิด ๆ จนทำร้ายตัวเองและคนในบ้าน เพราะบางครั้ง “รู้ตัวอีกที อาจสายเกินไป”