“ช่วงเช้า” ถือเป็น เวลาทองของร่างกาย ที่จะช่วยรีเซตนาฬิกาชีวิต และกระตุ้นระบบขับของเสียตามธรรมชาติ หากคุณกำลังมองหาวิธีง่าย ๆ ในการล้างพิษที่สะสมข้ามคืน พร้อมเร่งการเผาผลาญไขมัน ลองทำตาม 4 นิสัยเล็ก ๆ นี้ทุกเช้า แล้วคุณจะสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างไม่น่าเชื่อ!

1. ดื่มน้ำอุ่นทันทีหลังตื่นนอน

หลังจากหลับยาวทั้งคืน ร่างกายจะสูญเสียน้ำไปไม่น้อย สิ่งแรกที่ควรทำคือ “ดื่มน้ำอุ่น 1 แก้ว” (ประมาณ 200–300 มล.) อุณหภูมิประมาณ 30–40 องศา ดื่มช้า ๆ ทีละอึก

น้ำอุ่นจะช่วยปลุกระบบย่อยอาหารให้ตื่นตัว กระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้อย่างอ่อนโยน ช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย ลดโอกาสท้องผูก และเป็นขั้นตอนเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับวันใหม่

2. เข้าห้องน้ำให้เป็นเวลา และห้ามกลั้น

การขับถ่ายไม่สม่ำเสมอหรือต้องกลั้นปัสสาวะคือศัตรูตัวร้ายของระบบเผาผลาญ โดยเฉพาะในตอนเช้า ซึ่งเป็นเวลาที่ร่างกายพร้อมจะขับของเสียออกมากที่สุด

พยายามฝึกให้เข้าห้องน้ำในเวลาเดิมทุกวัน และห้ามกลั้นเด็ดขาด เพราะของเสียที่ค้างอยู่ในร่างกายอาจถูกดูดซึมกลับเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ร่างกายสะสมสารพิษและไขมันได้ง่ายขึ้น

3. กินอาหารเช้าให้ตรงเวลาและครบคุณค่า

“มื้อเช้า” คือมื้อที่สำคัญที่สุด เพราะเป็นตัวกระตุ้นระบบเผาผลาญให้ทำงานเต็มที่ตลอดวัน เวลาที่เหมาะสมที่สุดคือ 6.30–8.30 น. (ไม่ควรเกิน 10 โมง)
หากอดอาหารเช้าหรือกินช้าเกินไป จะทำให้หิวจัดในมื้อต่อมาและระบบเผาผลาญทำงานช้าลง

เลือกอาหารที่มีโปรตีนสูง (เช่น ไข่ หรือโยเกิร์ต) และใยอาหาร (เช่น ธัญพืช ผลไม้ ผักสด) เพื่อช่วยให้พลังงานคงที่และลำไส้ทำงานได้ดี

4. ขยับร่างกายตอนเช้า

ไม่จำเป็นต้องเข้ายิมหรือออกกำลังกายหนัก ๆ แค่ยืดกล้ามเนื้อ เดินช้า ๆ หรือฝึกหายใจลึก ๆ ตอนเช้าก็เพียงพอแล้ว
การเคลื่อนไหวเบา ๆ จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต เพิ่มออกซิเจนให้เซลล์ และช่วยให้อวัยวะภายในทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้การขับของเสียและการเผาผลาญพลังงานดีขึ้นอย่างชัดเจน

เพียงทำครบทั้ง 4 ข้อนี้ทุกเช้า ระบบย่อยอาหารจะสะอาดขึ้น การเผาผลาญเร็วขึ้น ผิวพรรณสดใสขึ้น และพุงยุบลงแบบไม่ต้องพึ่งยาลดน้ำหนักเลย!