อดีตทหารผ่านศึก คุณตา เหงียน วัน ตุง (Nguyễn Văn Tùng) จากฮานอย ประเทศเวียดนาม ได้แชร์เคล็ดลับในการเอาชนะมะเร็งตับระยะลุกลาม

เมื่ออายุ 72 ปี คุณตายังคงมีท่าทีมั่นคงและมองโลกในแง่ดี สำหรับเขาการพบมะเร็งตับระยะลุกลามอย่างกะทันหันและการต่อสู้กับโรคร้ายนี้ ไม่ต่างจากช่วงเวลาที่เขาอยู่ในสมรภูมิรบ ทั้งสองสถานการณ์ต้องใช้ความเชื่อมั่น ความตั้งใจ และวินัยในการเอาชนะ

เขาเล่าว่า ในปี 2023 เขาสังเกตว่าตนเองมีอาการเจ็บใต้ชายโครงและหายใจลำบาก ภาพอัลตราซาวนด์เผยให้เห็นก้อนเนื้อขนาดใหญ่ในตับ จึงถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาล Bach Mai เพื่อรับการรักษา

“ก่อนหน้านี้ผมไม่มีอาการชัดเจน แค่บางครั้งเหนื่อยและหายใจลำบาก ผมคิดว่านั่นเป็นเพียงสัญญาณของวัยชรา แต่เมื่อแพทย์สรุปว่าผมเป็นมะเร็งตับ ผมก็รับฟังอย่างสงบ” 

เป็นคนที่มีพื้นฐานร่างกายแข็งแรง คุณตาเล่าว่าตลอดชีวิตเคยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพียงสองครั้ง แต่ทั้งสองครั้งอยู่ในสภาพรุนแรง ครั้งแรกตอนอายุ 45 ปี เขาเป็นน้ำในเยื่อหุ้มปอด ต้องดูดออกหลายครั้ง หลังผ่านวิกฤติครั้งนั้น เขามีความเชื่อมั่นว่าตนเองสามารถมีชีวิตต่อและทำประโยชน์ต่อไป ครั้งนี้กับมะเร็งตับ เขาก็มีจิตใจเช่นเดียวกัน

“เป็นทหารที่เคยเผชิญหน้ากับความตาย ผมถือว่าโรคภัยก็เป็นเพียงความท้าทาย สิ่งสำคัญคือรักษาจิตใจให้สดใสเพื่อให้ครอบครัวสบายใจ”

เคล็ดลับเอาชนะมะเร็ง

1. รักษาจิตใจให้สดใส

คุณตาบอกว่า เขาไม่รู้สึกท้อแท้เพราะโรค เนื่องจากเคยไม่กลัวสงคราม แต่คนในครอบครัวกลับกังวลและร้องไห้เพราะโรคร้าย เขามองว่า “มีโรคก็ต้องรักษา” และกลายเป็นแรงสนับสนุนให้ครอบครัว

ในช่วงแรกที่เข้ารับการรักษา เนื่องจากก้อนเนื้อใหญ่เกินกว่าจะผ่าตัด เขาจึงได้รับการรักษาด้วยภูมิคุ้มกัน ต่อมามีการอุดเส้นเลือดและทำเคมีบำบัดเพื่อลดขนาดก้อนเนื้อ จากนั้นผ่านการผ่าตัดใหญ่ ตัดตับและตัดสามในสี่ของกระเพาะอาหาร แล้วทำเคมีบำบัดต่ออีก 6 รอบ ปัจจุบันเขารักษาแบบผู้ป่วยนอก มาตรวจติดตามทุกเดือน และสุขภาพค่อนข้างคงที่

เขายังมีทัศนคติร่าเริง แบ่งปันประสบการณ์เพื่อให้กำลังใจผู้ป่วยคนอื่น ๆ “จิตใจดี ร่างกายก็แข็งแรงขึ้น เราเหมือนเพื่อนร่วมรบ จับมือกันฝ่าฟันสงครามโรคภัย”

นอกจากเวลาเข้ารับการรักษา คุณตายังเข้าร่วมกิจกรรมชุมชน รักษาโบราณสถาน และจัดพิธีประเพณี “การได้ทำงานให้ชุมชนช่วยให้ผมมีความสุขและมีสุขภาพดี”

2. ออกกำลังกายเสริมสร้างสุขภาพ

หลังผ่าตัดและเริ่มเคมีบำบัด เขาเจอผลข้างเคียงเช่น มือและเท้าชา จึงออกกำลังกายเบา ๆ “เป็นคนออกกำลังกายอยู่แล้ว ผมทำตามปกติ หากเหนื่อยก็ทำท่าง่าย ๆ เช่น ยืดตัว ย่อ-เหยียดแขนขา แต่ก็ช่วยรักษาภูมิคุ้มกัน”
เขาเน้นเรื่องโภชนาการ รับประทานครบมื้อ ผักผลไม้ ดื่มน้ำมาก และปฏิบัติตามแผนการรักษาอย่างเคร่งครัด ไม่ใช้สมุนไพรหรือยาชาวบ้าน

3. การรักษาและผลลัพธ์

สองปีหลังพบมะเร็งตับ คุณตาผ่านการรักษาทุกขั้นตอน สุขภาพปัจจุบันค่อนข้างดี กินอาหารปกติ และยึดมั่นว่า “โรคภัยเป็นธรรมชาติ ไม่ควรกลัว ถือเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต สิ่งสำคัญคือใช้ชีวิตให้เข้มแข็งเพื่อให้ครอบครัวสบายใจ”

ดร. Nguyễn Duy Anh แพทย์ผู้ดูแลโดยตรงกล่าวว่า คุณตาเคยเป็นมะเร็งตับระยะลุกลาม มีเนื้องอกบริวารและติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ตอนแรกไม่สามารถผ่าตัดได้ หลังประเมินครบถ้วน เขาได้รับการรักษาทั้งร่างกายด้วยโมโนโคลนอลแอนติบอดี้ และยาภูมิคุ้มกัน จากนั้นทำการอุดเส้นเลือด

“หลัง 5 เดือน ผล CT-scan ของเขาน่าประทับใจ เนื้องอกบริวารหายหมด ก้อนหลักถูกควบคุมเต็มที่ ไม่มีการสร้างหลอดเลือดใหม่ กรณีนี้น่าทึ่งมาก”

สำหรับคุณตาท่านนี้ การเอาชนะครั้งใหญ่ที่สุดไม่ใช่เพียงผลการรักษา แต่คือการรักษาจิตใจให้สดใสและเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ป่วยคนอื่น ๆ ทุกวันมีชีวิตที่แข็งแรงคือชัยชนะอีกครั้งหนึ่ง