เด็กชายวัย 4 ขวบเสียชีวิตหลังจากกินไข่ต้ม ครอบครัวหลายบ้านยังคงประมาท

หลังจากกินไข่ต้ม เด็กชายถูกนำส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้ แพทย์ออกคำเตือนเร่งด่วนเกี่ยวกับความปลอดภัยของอาหารชนิดนี้

ไข่ไก่และไข่เป็ดเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหาร ทำง่าย และมักพบได้ในทุกมื้อของครอบครัว อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจไม่ทราบว่า หากปรุงหรือเก็บรักษาไม่ถูกวิธี ไข่ที่เราคิดว่าปลอดภัยอาจกลายเป็น “ตัวการ” ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และถึงขั้นคร่าชีวิตได้

ไม่นานมานี้ เกิดเหตุการณ์เศร้าในประเทศจีน ที่กลายเป็นสัญญาณเตือนให้ผู้ปกครองต้องระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับการให้เด็กกินไข่ โดยเฉพาะไข่ที่ยังไม่สุกดีหรือไข่ต้มยางมะตูม

เรื่องราวของเหตุการณ์

ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น พ่อแม่ของเด็กชายมีงานยุ่ง จึงฝากลูกไว้ให้คุณย่าดูแล เห็นว่าหลานชอบกินไข่ต้มยางมะตูม คุณย่าจึงมักจะต้มไข่หลายฟองในครั้งเดียวเพื่อประหยัดเวลา จากนั้นเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อให้กินในวันถัดไป

ในช่วงแรก เด็กชายรู้สึกชอบมากกับเมนูไข่ต้มดังกล่าว แต่หลังจากผ่านไปไม่กี่วัน เขาเริ่มมีอาการอ่อนเพลียและเหนื่อยง่าย เมื่อเห็นอาการผิดปกติ คุณย่าตกใจรีบแจ้งพ่อแม่ และรีบนำส่งโรงพยาบาล แต่แพทย์ยืนยันว่าไม่สามารถช่วยชีวิตเด็กไว้ได้

สาเหตุของการเสียชีวิต

แพทย์ระบุว่า สาเหตุเกิดจากการกินไข่ต้มยางมะตูมที่เก็บไว้นานในตู้เย็น ทำให้เชื้อแบคทีเรียเติบโต โดยเฉพาะเชื้อ Salmonella ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียที่มักพบในอาหารดิบ และเป็นสาเหตุสำคัญของอาการอาหารเป็นพิษ

ทำไมไข่ที่ไม่สุกดีจึงเป็นอันตราย

ไข่ที่ยังไม่สุกทั่ว โดยเฉพาะไข่ลวกหรือไข่ดิบ มักมีเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตราย หากรับประทานเป็นประจำหรือเก็บไว้นาน จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย ปวดท้อง มีไข้ สูญเสียน้ำในร่างกาย และร่างกายอ่อนแอ

สำหรับผู้ใหญ่ที่มีภูมิคุ้มกันแข็งแรง ร่างกายอาจรับมือได้เพียงอาการเล็กน้อย แต่สำหรับเด็กเล็กที่ระบบภูมิคุ้มกันยังไม่สมบูรณ์ ผลลัพธ์อาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า แต่ละปีมีประชากรทั่วโลกกว่า 220 ล้านคน ป่วยจากเชื้อ Salmonella และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 200,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการรับประทานไข่หรือผลิตภัณฑ์จากไข่ที่ไม่ได้ผ่านการปรุงสุกอย่างถูกต้อง

 คำแนะนำในการให้เด็กกินไข่

• เด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี: ไม่ควรกินไข่ขาว เพราะโปรตีนในไข่ขาวอาจทำให้เกิดอาการแพ้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มให้กิน

• เด็กที่กำลังป่วย มีไข้ หรือเป็นหวัด: ไม่ควรกินไข่ในปริมาณมาก เพราะอาจทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานหนัก

• ไม่ให้กินไข่ดิบหรือไข่ลวก: ควรต้มไข่ให้สุกทั่วทั้งฟอง เพื่อป้องกันการติดเชื้อ E. coli หรือ Salmonella

• ไม่ควรกินมากเกินไป: แม้ไข่จะมีประโยชน์ แต่การบริโภคมากเกินไปอาจเพิ่มระดับไขมันและคอเลสเตอรอลในเลือด

 เด็กอายุ 1–2 ปี: ควรกินไข่ประมาณ 3–4 ฟองต่อสัปดาห์
เด็กอายุ 3–6 ปี: 4–5 ฟองต่อสัปดาห์
เด็กโต: ไม่เกิน 1 ฟองต่อวัน

บทสรุป

เหตุการณ์ของเด็กชายวัย 4 ขวบในมณฑลเจ้อเจียง (ประเทศจีน) เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับผู้ปกครองทุกคน การให้เด็กกินไข่แม้จะเป็นอาหารมีประโยชน์ แต่ต้องปรุงให้สุกทั่ว เก็บรักษาอย่างถูกวิธี และสังเกตอาการของเด็กหลังรับประทาน เพื่อป้องกันโศกนาฏกรรมที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต