รู้หรือไม่? อาการคันเท้า อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ปัญหาสุขภาพต่างๆ มากมาย รวมถึงโรคตับ เบาหวาน และโรคไต

แม้จะเป็นเรื่องปกติที่จะมีอาการคันเป็นครั้งคราวเนื่องจากปัจจัยที่ไม่เป็นอันตราย เช่น สภาพอากาศแห้ง หรือแมลงกัด แต่อาการคันอย่างต่อเนื่องอาจบ่งบอกถึงปัญหาที่ร้ายแรงกว่านั้น

ผู้เชี่ยวชาญจาก Healthline เตือนว่า เท้ามีแนวโน้มที่จะเกิดอาการคันเป็นพิเศษ และเน้นย้ำว่าอาการดังกล่าวอาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรง เช่น โรคตับ เบาหวาน และโรคไต

โรคตับ

โรคตับอาจเกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปหรือไขมันสะสมในตับ และถือเป็นภาวะร้ายแรงที่อาจถึงแก่ชีวิตได้ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะ ทั้งนี้สมมูลนิธิโรคตับแห่งอังกฤษ ระบุว่าอาการคันเป็นอาการหนึ่งของโรคตับ

“คุณอาจมีอาการคันบริเวณใดก็ได้บนร่างกาย แต่ส่วนใหญ่มักคันที่แขน ขา ฝ่ามือ หรือฝ่าเท้า บางคนอาจคันไปทั่วทั้งตัวอาการคันที่เกิดจากโรคตับอาจแตกต่างกันไปตั้งแต่เล็กน้อย ไปจนถึงคันจนรู้สึกอ่อนล้า”

พร้อมอธิบายเพิ่มเติมว่า หากมีอาการคันที่เกี่ยวข้องกับตับ จะไม่มีผื่นผิวหนังหรือรอยแมลงกัดให้เห็นชัดเจน อย่างไรก็ตามการเกาอย่างต่อเนื่องอาจทำให้ผิวหนังเสียหายได้ นอกจากนี้ ความรุนแรงของอาการคันยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นตามความก้าวหน้าของโรค

“คุณอาจสังเกตเห็นว่าอาการจะแย่ลงเมื่ออยู่ในที่ร้อน เช่น อาบน้ำอุ่นตอนกลางคืน หรือเมื่อคุณสวมเสื้อผ้าบางชนิด” รายงานระบุ สาเหตุที่แน่ชัดของอาการคันจากโรคตับยังไม่ชัดเจน แต่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับปัจจัยต่างๆ เช่น การสะสมของเกลือน้ำดีในกระแสเลือด และการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในเลือดอันเนื่องมาจากโรคดังกล่าว

ส่วนอาการอื่นๆ ของโรคตับ ได้แก่ ความเหนื่อยล้าเรื้อรัง การสูญเสียความอยากอาหาร ส่งผลให้น้ำหนักลด ความรู้สึกทางเพศลดลง ตัวเหลือง และคลื่นไส้

โรคเบาหวาน

เว็บไซต์ Diabetes.co.uk เน้นย้ำว่าอาการคันที่เท้า  ขา และข้อเท้า เป็นอาการทั่วไปของผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน โดยระบุว่า "อาการคันผิวหนังอาจเป็นสัญญาณของโรคเบาหวาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีอาการเบาหวานอื่นๆ ร่วมด้วย"

เว็บไซต์ดังกล่าวอธิบายว่า การที่ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดอาการคันผิวหนัง ซึ่งบางครั้งอาจเกิดจากภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวาน เช่น ความเสียหายของเส้นประสาท หรือโรคไต

ตัวบ่งชี้สำคัญเพิ่มเติมของโรคเบาหวานที่ควรเฝ้าระวัง ได้แก่ ภาวะกระหายน้ำมากเกินไป ปัสสาวะบ่อยโดยเฉพาะในเวลากลางคืน อ่อนเพลียอย่างมาก น้ำหนักลดและกล้ามเนื้อลดน้อยลง อาการคันบริเวณอวัยวะเพศเป็นประจำ หรือมีเชื้อราในช่องคลอด และการมองเห็นพร่ามัว

โรคไต

องค์กรการกุศล Kidney Care UK ระบุว่าอาการคันเป็นอาการ "ที่พบได้บ่อยมาก" ในผู้ที่เป็นโรคไต โดยผู้ที่มีปัญหาไตขั้นรุนแรงประมาณครึ่งหนึ่งจะมีอาการนี้ และจะยิ่งรุนแรงขึ้นเมื่ออาการลุกลาม "คุณอาจพบว่าอาการคันมากขึ้นเมื่อการทำงานของไตแย่ลง"

ปัจจัยต่างๆ เช่น ผิวแห้ง อุณหภูมิสูง การฟอกไตไม่เพียงพอ หรือระดับแคลเซียมในเลือดสูง อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผู้ป่วยโรคไตมีอาการคันได้เช่นกัน

ส่วนสัญญาณเตือนอื่นๆ ของโรคไต ได้แก่ น้ำหนักลดและเบื่ออาหาร แขนขาบวมเนื่องจากการคั่งของน้ำ หายใจถี่ อ่อนล้าปัสสาวะมีเลือด ปัสสาวะบ่อยในเวลากลางคืน นอนไม่หลับ ตะคริว คลื่นไส้ ปวดศีรษะ และหย่อนสมรรถภาพทางเพศในผู้ชายดังนั้น ผู้ที่สังเกตเห็นอาการเหล่านี้ควรปรึกษาแพทย์ทันที