ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่ง ต.วังทอง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร หลังรับเรื่องราวร้องทุกข์จากชาย อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวว่า หญิง อายุ 61 ปี ภรรยาซึ่งอยู่กินกันมากว่า 30 ปี มีพฤติกรรมแปลกๆ เช่น เวลากินข้าวเหมือนเด็กมูมมาม กินหกเรี่ยราด บางครั้งเอามือล้วงลงไปขยำในถ้วยข้าว และยังแอบกินหมูดิบบ่อยครั้ง ซึ่งผิดปกติ รวมทั้งมีพฤติกรรมแก้ผ้าเดินไปมาภายในบ้าน เวลาตนนอนยามค่ำคืนจะมีกลิ่นเหม็นเน่าคล้ายกลิ่นศพออกมาจากลมหายใจ

 

ซึ่งก่อนหน้านี้ภรรยาตนไม่เคยมีพฤติกรรมดังกล่าวมาก่อน และตนยืนยันว่าภรรยาตนไม่ได้ป่วยเป็นจิตเวชแต่อย่างใด โดยครั้งหนึ่งเคยพาไปพบจิตแพทย์มาแล้ว ไม่พบสิ่งผิดปกติ พฤติกรรมดังกล่าวนี้เกิดขึ้นมากว่า 2 ปีแล้ว ตนคิดมาโดยตลอดว่า ทุกวันนี้เหมือนตนอยู่กับคนอื่น โดยเฉพาะตอนกลางคืน เวลาที่ตนนอนพักผ่อนอยู่กับภรรยา ตนได้กลิ่นเหม็นคล้ายกลิ่นศพจนแทบทนไม่ได้ ซึ่งตนรู้สึกแปลกใจมาก

 

ต่อมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านหลังดังกล่าว พบว่าภรรยาก็มีลักษณะปกติพูดคุยรู้เรื่องดี แต่ทางท่าคล้ายเด็กนอนเล่น บิดตัวไปมา ทั้งที่มีชาวบ้านในละแวกนั้นมามุงดูอยู่ 4-5 คน จากนั้นทางผู้สื่อข่าวได้ขออนุญาตเข้าไปสำรวจภายในบ้าน โดยสามีพาไปดูชั้นล่างของตัวบ้าน ไม่มีสิ่งของที่เป็นอัปมงคล หรือวัตถุลี้ลับตามความเชื่อแต่อย่างใด แต่เมื่อเดินขึ้นไปบนบ้าน พบว่ามีเสาไม้แดงกลางบ้านตกมันอยู่ 1 ต้น ผู้สื่อข่าวจึงตรวจสอบดูพบว่ามีร่องรอยของการทำพิธีเจิมเสาเอาไว้ ทำพิธีโดยพระสงฆ์รูปหนึ่งในหมู่บ้าน

 

พบกิ่งไม้เก่าๆ กิ่งหนึ่งถูกพันด้ายด้วยสายสิญจน์วางไว้ใกล้กันกับรูปถ่ายพิธีแต่งงานของทั้งคู่ ซึ่งสามียืนยันว่าเป็นผู้เอาสายสิญจน์มาพันไว้เอง ซึ่งตนจำไม่ได้ว่าทำไมตนจึงต้องนำเอาด้ายสายสิญจน์ ฃดังกล่าวมาพันเอาไว้ และตนก็ไม่แน่ใจว่าทั้งหมดที่พบเจอจะมีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับภรรยาตนหรือไม่ ตอนนี้ตนยอมรับว่าทุกข์ใจมาก ทั้งกลัวและหวาดระแวง จนแทบไม่อยากจะอยู่บ้านหลังนี้แล้วโดยเฉพาะในยามค่ำคืน

 

ตนเคยพาภรรยาไปให้คนทรงช่วยดู ทุกคนได้กล่าวเหมือนกันหมดว่า ช่วยไม่ได้ถ้าช่วยก็ตาย ไปหาหมอก็ตาย ซึ่งตนไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว ไปมาทุกที่ที่ไหนที่เขาว่าดังๆ ตนไปหมด ตนอยากจะให้หมอปลามาช่วยดูอาการและช่วยรักษาภรรยาของตนด้วย เพราะตนก็ไม่รู้จะไปพึ่งใคร