หลายคนเชื่อว่าคนที่ป่วยเป็นเบาหวานต้องเป็นคนที่ “กินของหวานเยอะ” เท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่จำเป็นต้องชอบของหวานก็สามารถป่วยได้เช่นกัน — เหมือนกับกรณีของคุณจาง ครูหญิงวัย 40 ปี จากประเทศจีน ที่เสียชีวิตจากโรคเบาหวาน ทั้งที่แทบไม่เคยแตะของหวานเลยตลอดชีวิต

คุณจางเป็นครูผู้มีจิตเมตตา ทั้งในบ้านและที่โรงเรียน เธอใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ทั้งการกินอยู่และการทำงาน แต่วันหนึ่งกลับต้องจากไปด้วยโรคร้ายที่ไม่มีใครคาดคิด หลังการเสียชีวิต แพทย์ผู้ดูแลอธิบายให้สามีของเธอฟังว่า “โรคเบาหวานไม่ได้เกิดจากการกินหวานเพียงอย่างเดียว” แต่ยังอาจมาจากอาหารที่เรากินเป็นประจำทุกวัน โดยไม่รู้เลยว่ามันแฝงไปด้วยน้ำตาลในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งสะสมในร่างกายจนระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

1. ตับสัตว์

หลายคนชอบกินตับ เพราะเชื่อว่ามีธาตุเหล็กและวิตามินสูง แต่รู้หรือไม่ว่าในตับสัตว์มีคอเลสเตอรอลในปริมาณสูงมาก ซึ่งสามารถกระตุ้นให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นโดยอ้อม หากกินบ่อยหรือในปริมาณมาก จะเพิ่มภาระให้กับตับและทำให้เสี่ยงต่อโรคเบาหวาน

2. พุทราแดง 

พุทราแดงเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง นิยมใช้ต้มชา หรือใส่ในอาหารเพื่อบำรุงเลือด แต่ก็มีน้ำตาลธรรมชาติอยู่ในระดับสูงมากเช่นกัน หากกินบ่อยหรือติดต่อกันเป็นเวลานาน จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและโรคตับ

3. ข้าวขาว

ข้าวถือเป็นอาหารหลักของคนเอเชีย แต่รู้หรือไม่ว่า “ข้าวขาว” มีค่าดัชนีน้ำตาล (Glycemic Index) สูง เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะถูกย่อยเป็นกลูโคสอย่างรวดเร็ว ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งขึ้นทันที หากกินข้าวมากโดยไม่สมดุลกับผักหรือโปรตีน จะทำให้ระบบควบคุมอินซูลินทำงานหนัก และกลายเป็นปัจจัยหลักของโรคเบาหวานในระยะยาว

วิธีป้องกันโรคเบาหวานและรักษาระดับน้ำตาลให้สมดุล

• ออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อช่วยให้ร่างกายนำกลูโคสไปใช้เป็นพลังงานได้ดีขึ้น ลดภาระการทำงานของตับอ่อน

• ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพราะน้ำช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีและช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย

• ลดอาหารแปรรูปและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เช่น น้ำอัดลม ชานม และขนมอบ

• ตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อเช็กระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอ

แม้จะไม่แตะของหวาน แต่หากละเลยพฤติกรรมการกินในชีวิตประจำวัน โรคเบาหวานก็ยังสามารถคืบคลานเข้ามาได้อย่างเงียบ ๆ เช่นกรณีของคุณจาง เรื่องราวนี้จึงเป็นคำเตือนให้ทุกคนใส่ใจสุขภาพ และเรียนรู้ว่า “น้ำตาล” ไม่ได้มาจากของหวานเท่านั้น แต่อาจซ่อนอยู่ในอาหารที่เรากินทุกวันโดยไม่รู้ตัว.