ในยุคที่ผู้คนหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น โรค “ต่อมไทรอยด์” กลับกลายเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในผู้หญิงวัยทำงาน หลายคนมีอาการผิดปกติ เช่น เหนื่อยง่าย ใจสั่น น้ำหนักเปลี่ยนโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือมีก้อนที่คอ แต่ไม่รู้ว่าสาเหตุมาจาก “ต่อมไทรอยด์” ซึ่งควบคุมระบบเผาผลาญของทั้งร่างกาย

แพทย์เตือนว่า ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ ไม่ว่าจะเป็นภาวะไทรอยด์ทำงานเกิน หรือต่ำเกินไป ควรใส่ใจเรื่องอาหารและอาหารเสริมให้มาก เพราะบางอย่างอาจกระตุ้นให้ต่อมไทรอยด์เสียสมดุล หรือเร่งการลุกลามของเซลล์มะเร็งต่อมไทรอยด์ได้

---

⚠️ 2 สิ่งที่ผู้มีปัญหา “ต่อมไทรอยด์” ควรระวังเป็นพิเศษ

1. ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง

แม้ถั่วเหลืองจะมีโปรตีนและไฟโตเอสโตรเจนสูง แต่สารบางชนิดในถั่วเหลืองสามารถ “ยับยั้งการดูดซึมไอโอดีน” ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ต่อมไทรอยด์ต้องใช้ในการสร้างฮอร์โมน
หากรับประทานมากเกินไปโดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะไทรอยด์ต่ำ อาจทำให้อาการแย่ลงได้

คำแนะนำ:
ไม่ได้หมายความว่าห้ามกินถั่วเหลืองเด็ดขาด แต่ควรกินในปริมาณพอดี และเว้นระยะห่างจากเวลาทานยาฮอร์โมนไทรอยด์อย่างน้อย 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการรบกวนการดูดซึมยา

---

2. อาหารเสริมบางชนิดที่อ้างว่าบำรุงไทรอยด์

ในท้องตลาดมีอาหารเสริมหลายยี่ห้อที่โฆษณาว่าช่วย “กระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์” หรือ “ช่วยลดก้อนในต่อมไทรอยด์” แต่แท้จริงแล้ว อาจมีส่วนผสมของ ไอโอดีนหรือฮอร์โมนสังเคราะห์ ในปริมาณสูงเกินไป ซึ่งอาจทำให้ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ หรือในบางกรณีอาจเร่งให้ เซลล์มะเร็งเติบโตเร็วขึ้น

คำแนะนำ:
อย่าซื้ออาหารเสริมที่ไม่มีใบรับรองจากแพทย์หรือหน่วยงานสาธารณสุข
หากต้องการเสริมไอโอดีน ควรเลือกจากแหล่งธรรมชาติ เช่น เกลือเสริมไอโอดีนหรืออาหารทะเลในปริมาณพอดี

---

💡 สรุป

ต่อมไทรอยด์แม้จะมีขนาดเล็ก แต่มีบทบาทสำคัญต่อร่างกายอย่างมาก
ผู้ที่มีปัญหาควรหลีกเลี่ยงการกินถั่วเหลืองมากเกินไป และระวังอาหารเสริมที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ
เพราะเพียงเล็กน้อยที่ละเลย อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ร้ายแรงได้