หากร่างกายของคุณปรากฏ 1 ใน 5 สัญญาณเหล่านี้ ควรตรวจสุขภาพทันที

(5 สัญญาณอาการคันบนร่างกายที่อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคมะเร็ง)

อาการคันตามร่างกายเป็นเรื่องที่พบได้ทั่วไป และในหลายกรณีอาจเกิดจากสาเหตุเล็กน้อย เช่น ผิวแห้ง หรือแพ้สารเคมีบางชนิด แต่ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เตือนว่า หากอาการคันเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน หรือคันร่วมกับอาการผิดปกติอื่น ๆ ของร่างกาย อาจเป็นสัญญาณเตือนเริ่มต้นของ “โรคร้ายแรง” โดยเฉพาะโรคมะเร็งบางชนิด

บทความนี้จะพาผู้อ่านมาทำความเข้าใจ 5 สัญญาณอาการคัน ที่ไม่ควรมองข้าม และควรเข้ารับการตรวจสุขภาพโดยแพทย์โดยทันที

---

1. อาการคันร่วมกับผิวเหลืองหรือดวงตาเหลือง

หากอาการคันเกิดขึ้นพร้อมกับผิวหนังหรือดวงตาที่เริ่มมีสีเหลือง อาจเป็นสัญญาณของ โรคมะเร็งตับหรือท่อน้ำดี เนื่องจากเมื่อระบบตับทำงานผิดปกติ สารบิลิรูบินจะสะสมในร่างกาย ทำให้เกิดภาวะดีซ่านและอาการคันรุนแรงตามผิวหนัง

แพทย์แนะนำว่าหากพบอาการลักษณะนี้ ควรเข้ารับการตรวจเลือดและอัลตราซาวด์ช่องท้องโดยด่วน

---

2. คันเฉพาะบริเวณโดยไม่มีผื่นหรือรอยแดง

อาการคันเฉพาะที่ เช่น แขน ขา หรือหลัง โดยไม่มีผื่นหรือรอยอักเสบ อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของ มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Lymphoma) เนื่องจากเซลล์มะเร็งสามารถกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารเคมีบางชนิด เช่น ฮีสตามีน (Histamine) ทำให้เกิดอาการคันจากภายใน

โดยเฉพาะหากอาการคันเกิดร่วมกับอาการน้ำหนักลด เหงื่อออกตอนกลางคืน หรือมีต่อมน้ำเหลืองโต ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมทันที

---

3. คันทั่วร่างกายโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน

อาการคันทั่วร่างกายที่ไม่สัมพันธ์กับสภาพผิวหรือสิ่งแวดล้อม เช่น คันแม้อยู่ในห้องอุณหภูมิปกติ ไม่มีแมลงกัดต่อย หรือไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ อาจเกี่ยวข้องกับ ความผิดปกติของระบบเลือดหรือมะเร็งเม็ดเลือดขาว (Leukemia)

ในผู้ป่วยบางราย อาการคันเกิดจากเซลล์มะเร็งไปกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้เกิดการปล่อยสารก่อการคันทั่วร่างกาย

---

4. คันร่วมกับจุดเลือดออกหรือรอยช้ำบนผิวหนัง

หากอาการคันปรากฏพร้อมกับจุดเลือดออกเล็ก ๆ หรือรอยช้ำที่เกิดขึ้นเองง่าย โดยไม่เคยกระแทกหรือบาดเจ็บ อาจบ่งบอกถึง ความผิดปกติของเกล็ดเลือดหรือมะเร็งในไขกระดูก (Bone marrow cancer)

อาการดังกล่าวควรได้รับการตรวจเลือดอย่างละเอียดเพื่อประเมินค่าการแข็งตัวของเลือดและจำนวนเม็ดเลือด

---

5. คันร่วมกับก้อนผิดปกติหรือผิวหนังหนาขึ้น

อาการคันที่เกิดบริเวณใดบริเวณหนึ่งของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณที่มี ก้อนแข็ง ผิวหนังหนา หรือมีแผลเรื้อรัง อาจเป็นสัญญาณของ มะเร็งผิวหนัง (Skin cancer) เช่น มะเร็งเซลล์สความัส (Squamous cell carcinoma) หรือมะเร็งเมลาโนมา (Melanoma)

หากพบการเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง เช่น ก้อนมีขนาดใหญ่ขึ้น สีเปลี่ยน หรือมีเลือดออก ควรรีบเข้ารับการตรวจโดยแพทย์เฉพาะทางผิวหนัง

---

คำแนะนำจากแพทย์

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งเตือนว่า “อาการคัน” แม้จะดูเป็นเรื่องเล็ก แต่หากเกิดขึ้นต่อเนื่องโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน เป็นเวลานานเกิน 2 สัปดาห์ ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพทันที เพราะหลายครั้งมะเร็งสามารถแสดงออกด้วยอาการเล็กน้อยก่อนที่จะลุกลามในระยะต่อมา

การตรวจเลือด ตรวจตับ และการสแกนภาพร่างกาย (CT Scan / Ultrasound) เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้แพทย์วินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำ

---

สรุป

อาการคันอาจเป็นเพียงปัญหาผิวหนังธรรมดา แต่ในบางกรณีก็อาจเป็น “เสียงเตือนจากภายในร่างกาย” ที่ไม่ควรมองข้าม การใส่ใจต่อสัญญาณเล็ก ๆ เหล่านี้คือกุญแจสำคัญในการป้องกันโรคร้ายแรงอย่างมะเร็ง

หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการคันที่ผิดปกติ ไม่ทราบสาเหตุ หรือเกิดร่วมกับอาการอื่น เช่น เหงื่อออกกลางคืน น้ำหนักลด หรือผิวเหลือง ควรเข้าพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที