ไปตลาดเจอขิงแบบนี้ ห้ามซื้อเด็ดขาด แม้แต่คนขายผักยังไม่กล้ากิน

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีรายงานจากหลายจังหวัดว่าพบ “ขิง” ที่มีลักษณะผิดปกติวางขายตามตลาดสดและตลาดนัดจำนวนมาก ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารเตือนว่า ขิงบางชนิดอาจปนเปื้อนสารเคมีหรือมีการเร่งการเจริญเติบโตด้วยสารอันตราย ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพของผู้บริโภคในระยะยาว

---

ลักษณะของขิงที่ไม่ควรซื้อ

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และนักวิชาการเกษตรได้ออกมาให้คำแนะนำว่า ผู้บริโภคควรสังเกตลักษณะของขิงก่อนซื้อทุกครั้ง โดยขิงที่ “ไม่ปลอดภัย” มักมีลักษณะดังนี้

1. ผิวขิงเรียบผิดปกติ สีขาวหรือเหลืองอ่อนจนเกินจริง
   
   
   ขิงสดตามธรรมชาติจะมีสีเหลืองอมทองและมีร่องลึกตามผิว แต่หากผิวเรียบและขาวซีดผิดธรรมชาติ แสดงว่าอาจผ่านการฟอกด้วยสารเคมี เช่น กำมะถันหรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ เพื่อให้ดูใหม่และสะอาด

2. มีกลิ่นฉุนทางเคมี หรือกลิ่นไม่เป็นธรรมชาติ
   กลิ่นขิงแท้ควรมีความเผ็ดร้อนและหอมเฉพาะตัว หากมีกลิ่นคล้ายยาฆ่าแมลงหรือกลิ่นแสบจมูก ควรหลีกเลี่ยงทันที

3. ผิวขิงมีความมันวาวเกินไป
   ขิงบางรายอาจถูกเคลือบด้วยแว็กซ์หรือสารเคลือบเงาเพื่อป้องกันการเหี่ยว ซึ่งสารเหล่านี้อาจไม่เหมาะสำหรับการบริโภค

4. มีรอยช้ำหรือรอยจุดสีคล้ำ
   ขิงที่ถูกเร่งการเจริญเติบโตมักมีโครงสร้างอ่อน รอยจุดคล้ำอาจเกิดจากการใช้สารเร่งรากหรือปุ๋ยเคมีเข้มข้น
   
   

---

เหตุผลที่ต้องหลีกเลี่ยงขิงลักษณะนี้

1. เสี่ยงต่อการสะสมสารพิษในร่างกาย

การฟอกหรือเร่งขิงด้วยสารเคมีจะทำให้สารตกค้างเข้าสู่ระบบทางเดินอาหาร หากบริโภคต่อเนื่องอาจก่อให้เกิดโรคตับ ไต หรือระบบประสาททำงานผิดปกติ

2. ทำลายคุณค่าทางโภชนาการ

สารเคมีที่ใช้ในการฟอกหรือเคลือบผิวขิงทำให้วิตามินและน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติลดลง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระและเสริมภูมิคุ้มกัน

3. ผลกระทบต่อเกษตรกรและสิ่งแวดล้อม

การใช้สารเร่งและสารฟอกขาวในกระบวนการผลิตส่งผลให้ดินและแหล่งน้ำปนเปื้อน เป็นอันตรายต่อเกษตรกรและสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

---

ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยอาหาร

รศ.ดร.มาลี รัตนสุข ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอาหาร จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่า

“ในปัจจุบันพบว่ามีการใช้สารเคมีบางชนิดเพื่อทำให้ขิงดูขาวและสด ซึ่งแม้จะทำให้ขายได้ง่ายขึ้น แต่สารเหล่านี้ไม่สามารถกำจัดได้หมดด้วยการล้างน้ำทั่วไป การบริโภคต่อเนื่องอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง โดยเฉพาะในผู้ที่มีตับหรือไตทำงานผิดปกติ”

เธอยังแนะนำว่า ผู้บริโภคควรเลือกซื้อขิงจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และควรเลือกขิงที่มีลักษณะธรรมชาติ เช่น ผิวหยาบ มีสีเหลืองทอง และมีกลิ่นหอมชัดเจน

---

วิธีเลือกซื้อขิงให้ปลอดภัย

1. ซื้อจากแหล่งจำหน่ายที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน GAP หรือ Organic

2. หลีกเลี่ยงขิงที่มีผิวขาวจัดหรือสะอาดเกินจริง

3. ก่อนปรุงอาหารควรล้างขิงด้วยน้ำสะอาดหลายครั้ง และแช่น้ำผสมเบกกิ้งโซดาประมาณ 10 นาทีเพื่อลดสารตกค้าง

4. หากเป็นไปได้ ให้ปลูกขิงไว้บริโภคเองในบ้าน เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัย

---

สรุป

“ขิง” เป็นสมุนไพรที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและมีสรรพคุณทางยา แต่ในปัจจุบันกลับพบการปลอมปนและการใช้สารเคมีในกระบวนการผลิตมากขึ้น ผู้บริโภคจึงควรระมัดระวังและเลือกซื้ออย่างมีสติ
การหลีกเลี่ยงขิงที่มีลักษณะผิดปกติ ไม่เพียงช่วยป้องกันอันตรายต่อสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นการสนับสนุนเกษตรกรที่ผลิตสินค้าปลอดภัยและยั่งยืนอีกด้วย