“คุณกัง” หนุ่มวัย 28 ปี พนักงานออฟฟิศผู้รักสุขภาพสุด ๆ เขาออกกำลังกายเป็นประจำ กินผักผลไม้ และดื่มนมสดทุกวัน เพราะเชื่อว่าจะช่วยให้กระดูกแข็งแรง แต่วันหนึ่ง เขาเริ่มรู้สึกว่ามือสั่น แขนขาอ่อนแรง จึงรีบค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต และพบว่าอาการคล้ายคน “ขาดแคลเซียม” ทำให้เขายิ่งสงสัยว่าทำไม ทั้งที่ดื่มนมสม่ำเสมอ

เมื่อไปตรวจที่แผนกกระดูกของโรงพยาบาลกลางอู่ฮั่น แพทย์กลับสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ เช่น สีผิวคล้ำลง น้ำหนักลด และมีอาการอ่อนเพลีย จึงส่งตรวจเพิ่มเติมที่แผนกตับ ผลออกมาทำให้เขาช็อกสุดชีวิต — เขาเป็น “มะเร็งตับระยะเริ่มต้น”!

ดื่มนมผิดวิธี กลับทำร้ายตับโดยไม่รู้ตัว

คุณกังไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ และนอนพักผ่อนเพียงพอ เขามีนิสัยดื่มนมวันละ 2 แก้วตลอดกว่า 4 ปี ที่ผ่านมาเขาซื้อนมสดจากฟาร์มวัวใกล้ชานเมือง เพราะราคาถูกและคิดว่าสดกว่า แต่ด้วยความที่อยู่ไกล เขาจึงซื้อมาครั้งละมาก ๆ แล้วเก็บไว้ในตู้เย็นเป็นสัปดาห์

แพทย์เผยว่านี่คือ “จุดผิดพลาดร้ายแรง” เพราะนมสดที่ไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์มีอายุเก็บสั้นและเสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อโรค เช่น E. coli, Salmonella, Listeria รวมถึงสารพิษ Aflatoxin ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งอันดับหนึ่งตามการเตือนขององค์การอนามัยโลก (WHO) และเมื่อสะสมในร่างกายจะส่งผลรุนแรงโดยเฉพาะกับ “ตับ”

อาการมือสั่นไม่ใช่โรคกระดูก แต่มาจาก “สมองตับ” (Asterixis)

กรณีของคุณกัง แพทย์อธิบายว่าอาการมือสั่นเกิดจาก “ภาวะสมองตับ” ซึ่งเป็นอาการทางระบบประสาทในผู้ป่วยตับเรื้อรัง เมื่อสารพิษไม่ถูกขับออกจากร่างกาย จะส่งผลต่อสมองและการควบคุมกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดอาการสั่นผิดปกติ

บทเรียนสำคัญ

โชคดีที่คุณกังตรวจพบมะเร็งตับในระยะเริ่มต้นและเข้ารับการรักษาทันเวลา กรณีนี้จึงเป็นอุทาหรณ์ว่า “นิสัยดี ๆ ก็อาจกลายเป็นยาพิษได้ หากทำผิดวิธี”