ข่าว 2025-03-13 16:00:28

แต่งงานในวัย 37 ปี: ในคืนวันวิวาห์ พอเห็นเตียงวิวาห์ ฉันก็ตัดสินใจหนีออกจากบ้านสามีทันที—ย

แต่งงานในวัย 37 ปี: ในคืนวันวิวาห์ พอเห็นเตียงวิวาห์ ฉันก็ตัดสินใจหนีออกจากบ้านสามีทันที—ยอมสายมากกว่าแต่งงานผิดคน

Image preview

ฉันชื่อแอน ปีนี้ฉันอายุ 37 ปีแล้ว และฉันเพิ่งผ่านเหตุการณ์ที่เปลี่ยนชีวิตฉันไปตลอดกาล นั่นก็คือ "การแต่งงาน" ที่จบลงเพียงคืนแรกของชีวิตคู่

ความฝันที่กลายเป็นความกังวล

ตั้งแต่เด็ก ฉันเคยฝันถึงงานแต่งงานที่สวยงาม เจ้าบ่าวที่อ่อนโยน และชีวิตคู่ที่เต็มไปด้วยความรัก ฉันคิดเสมอว่าการแต่งงานเป็นเป้าหมายสูงสุดของชีวิตผู้หญิง และเมื่อเวลาผ่านไปจนฉันอายุ 37 ปี ฉันก็เริ่มกังวลว่าฉันอาจไม่มีโอกาสได้แต่งงานเหมือนคนอื่น

จนกระทั่งฉันได้พบกับพี่ก้อง ชายวัย 40 ปีที่ดูเหมือนเป็นคนอบอุ่นและมั่นคง เราคบกันได้ประมาณหนึ่งปี และเขาก็ขอฉันแต่งงาน แม้ว่าฉันจะรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของเรายังมีบางอย่างที่ไม่ลงตัว แต่ฉันก็คิดว่าอายุขนาดนี้แล้ว หากปล่อยโอกาสไป ฉันอาจไม่มีโอกาสเจอใครที่พร้อมแต่งงานอีก

คืนวิวาห์ที่ไม่คาดคิด

พิธีแต่งงานจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย มีเพื่อนสนิทและครอบครัวของทั้งสองฝ่ายมาร่วมแสดงความยินดี ทุกอย่างดูเป็นปกติ ฉันพยายามบอกตัวเองว่านี่คือจุดเริ่มต้นของชีวิตคู่ที่ดี

แต่แล้ว เมื่อฉันเดินเข้าไปในห้องนอนของเราคืนแรก ภาพที่ฉันเห็นทำให้ฉันรู้สึกเหมือนโลกถล่มลงตรงหน้า

เตียงวิวาห์ไม่ได้ตกแต่งอย่างสวยงามเหมือนที่ฉันจินตนาการไว้ สิ่งที่ฉันเห็นคือเตียงเก่า ๆ ผ้าปูที่นอนที่ดูเหมือนไม่เคยเปลี่ยนมานาน และกลิ่นเหม็นอับที่ทำให้ฉันรู้สึกไม่สบายใจยิ่งขึ้น

แต่นั่นยังไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ฉันตัดสินใจหนีไป สิ่งที่ทำให้ฉันรู้ว่าฉันแต่งงานผิดคนคือท่าทีของพี่ก้อง

เขาไม่ได้ดูตื่นเต้นหรือให้ความสำคัญกับคืนแรกของเราเลย ตรงกันข้าม เขากลับทำตัวเฉยเมยและพูดด้วยน้ำเสียงที่ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนว่า "ก็แค่นอน แกจะคิดอะไรมาก"

คำพูดนั้นเหมือนเป็นสัญญาณเตือนที่ดังขึ้นในหัวของฉัน ทำให้ฉันย้อนคิดถึงช่วงเวลาที่เราคบกัน... ฉันเริ่มตระหนักว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา พี่ก้องไม่เคยให้เกียรติฉันเท่าที่ควร บางครั้งเขาพูดจาดูถูกฉันแบบขำ ๆ แต่ฉันก็พยายามมองข้ามไปเพราะคิดว่าเขาคงไม่ได้ตั้งใจ

และในคืนวันวิวาห์นั้น ฉันเข้าใจแล้วว่าฉันไม่สามารถใช้ชีวิตกับคนแบบนี้ไปตลอดชีวิตได้

การตัดสินใจที่เปลี่ยนชีวิต

ฉันตัดสินใจลุกขึ้น หยิบกระเป๋าเสื้อผ้า และเดินออกจากบ้านของพี่ก้องโดยไม่หันหลังกลับ

ฉันเดินเท้ากลับบ้านแม่ของฉัน แม้ว่าจะเป็นระยะทางกว่า 7 กิโลเมตร แม้ว่าจะเป็นเวลากลางดึก แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าต้องอธิบายกับครอบครัวอย่างไร

แต่ฉันมั่นใจว่าฉันเลือกถูกแล้ว

ฉันเลือกที่จะให้เกียรติตัวเอง มากกว่าการฝืนอยู่ในชีวิตคู่ที่ฉันรู้ว่าไม่มีความสุขแน่นอน

เสียงจากสังคมและบทเรียนที่ได้รับ

เมื่อเรื่องของฉันถูกแชร์ออกไปในโซเชียล มีคนเข้ามาให้กำลังใจฉันมากมาย หลายคนบอกว่าฉันกล้าหาญที่เลือกทางนี้ บางคนเล่าว่าพวกเขาเองก็เคยแต่งงานผิดคน และต้องใช้เวลาหลายปีในการเลิกกัน

ฉันได้เรียนรู้ว่าการแต่งงานไม่ใช่เรื่องของอายุ ไม่ใช่เพราะกลัวว่าจะไม่มีใครมารัก แต่เป็นเรื่องของการเลือกคนที่เหมาะสมกับเรา การแต่งงานกับคนที่ไม่ใช่อาจทำให้ชีวิตพังมากกว่าการอยู่เป็นโสด

ฉันดีใจที่ฉันตัดสินใจเดินออกมาในวันนั้น และฉันอยากจะบอกทุกคนที่กำลังลังเลว่า...

"ยอมสายดีกว่าแต่งงานผิดคน"

การอยู่เป็นโสดไม่ได้น่ากลัวเท่ากับการใช้ชีวิตกับคนที่ทำให้คุณไม่มีความสุข

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่