สุขภาพ 22/10/2025 09:13

ดื่ม “น้ำกระเจี๊ยบเขียว” ตอนเช้า ช่วยคุมระดับน้ำตาลในเลือด พร้อมทำหน้าที่เป็น “ยาระบายธร

กระเจี๊ยบเขียว หรือที่บางพื้นที่เรียกว่า “มะเขือเทศเทศ” หรือ “ฝักทองเหลือง” มีต้นกำเนิดจากแถบแอฟริกาตะวันตก ด้วยคุณสมบัติทนต่อความร้อนและความแห้งแล้งได้ดี พืชชนิดนี้จึงปลูกได้ดีในเขตอบอุ่นและเขตร้อน เช่นเดียวกับในประเทศไทย โดยเฉพาะภาคใต้ที่มีอากาศร้อนตลอดปี
Sau Tết chăm uống loại nước này, vừa kiểm soát đường trong máu, vừa là “thuốc nhuận tràng” hữu hiệu- Ảnh 2.

กระเจี๊ยบเขียวเป็นพืชผักสวนครัวที่ปลูกได้ทั้งปี ลำต้นสูงได้ถึง 2.5 เมตร ใบมีขนาดใหญ่ ดอกมีสีขาวหรือเหลืองอ่อนและมักมีจุดแดงตรงกลาง กลีบดอก 5 กลีบ ผลมีลักษณะยาว ภายในมีเมล็ดจำนวนมากและมีเมือกลื่นเป็นเอกลักษณ์

พืชชนิดนี้อุดมไปด้วยสารอาหาร เช่น โปรตีน วิตามิน A, E, B กรดอะมิโน โพแทสเซียม และแคลเซียม ซึ่งล้วนเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย

ช่วยบำรุงเลือดและควบคุมระดับน้ำตาล

กระเจี๊ยบเขียวมีธาตุเหล็ก สังกะสี และโพแทสเซียมสูง ซึ่งมีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือด จึงช่วยลดความเสี่ยงภาวะโลหิตจาง
นอกจากนี้ยังมีสารอินซูลินธรรมชาติที่ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานหรือผู้สูงอายุที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกาย
Làm thế nào để nhanh chóng hạ lượng đường trong máu, thấy được kết quả thực sự và không gây hại cho sức khỏe của bạn

“ยาระบายธรรมชาติ” ช่วยระบบขับถ่ายดีขึ้น

เมือกในกระเจี๊ยบเขียวประกอบด้วยโพลีแซ็กคาไรด์ เช่น คอลลาเจนและมิวโคโพลีแซ็กคาไรด์ ซึ่งช่วยส่งเสริมการทำงานของลำไส้และจุลินทรีย์ชนิดดีในทางเดินอาหาร ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น

กระเจี๊ยบเขียวยังมีใยอาหารสูงและสามารถดูดซับน้ำได้ดี ช่วยป้องกันอาการท้องผูก และทำหน้าที่เป็น “ยาระบาย” อย่างเป็นธรรมชาติ
Táo bón và những nguy hiểm không chỉ là cảm giác khó chịu ở dạ dày

บำรุงข้อและกระดูก

เมือกจากกระเจี๊ยบเขียวมีคุณสมบัติช่วยหล่อลื่นข้อ ผสานกับวิตามิน K และโฟเลตที่ช่วยลดการสูญเสียแคลเซียม เสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก และลดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุน

ดีต่อระบบทางเดินหายใจ

วิตามิน C และสารต้านอนุมูลอิสระในกระเจี๊ยบเขียวมีส่วนช่วยลดอาการของโรคทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด เมื่อรับประทานเป็นประจำจะช่วยบรรเทาอาการและเสริมภูมิคุ้มกัน
9 cách chăm sóc phổi để luôn khỏe mạnh, sẵn sàng chiến đấu với COVID-19 - GED cuộc sống tốt đẹp, cuộc sống tốt đẹp, trang web sức khỏe tốt, tư vấn vấn đề sức khỏe miễn phí

ช่วยควบคุมน้ำหนักและบำรุงผิวพรรณ

เพคตินในกระเจี๊ยบเขียวช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ และช่วยขับของเสียออกจากเลือด ทำให้ผิวกระจ่างใส ลดสิวอุดตัน
กระเจี๊ยบเขียวยังให้พลังงานต่ำแต่มีใยอาหารสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก

วิธีดื่มน้ำกระเจี๊ยบเขียวให้ได้ผลดีที่สุด

เวลาที่เหมาะสมในการดื่มคือตอนเช้า ประมาณ 30 นาทีก่อนอาหาร เพื่อช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานดีขึ้น
Sau Tết chăm uống loại nước này, vừa kiểm soát đường trong máu, vừa là “thuốc nhuận tràng” hữu hiệu- Ảnh 3.

วิธีทำ:

  1. เตรียมกระเจี๊ยบเขียว 4 ฝัก ล้างให้สะอาด ตัดหัวและท้ายออก

  2. หั่นครึ่งหรือหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่แก้ว เติมน้ำสะอาดประมาณ 250 มิลลิลิตร

  3. แช่ไว้ 6–8 ชั่วโมง จากนั้นกรองเอาแต่น้ำดื่ม จะได้เครื่องดื่มที่มีลักษณะข้นและมีเมือกเล็กน้อย

ควรดื่มสัปดาห์ละ 2–3 ครั้ง ไม่ควรมากเกินไป เพราะอาจมีผลต่อการทำงานของไต หากอยู่ระหว่างการใช้ยา ควรปรึกษาแพทย์ก่อนดื่ม

เคล็ดลับเลือกกระเจี๊ยบเขียวที่ดี

เลือกฝักขนาดกลาง ประมาณ 10 เซนติเมตร สีเขียวสด ไม่มีรอยช้ำหรือจุดดำ เมื่อบีบแล้วไม่แข็งหรือแห้งจนเกินไป ฝักที่แก่หรือเหี่ยวไม่ควรนำมารับประทาน

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่