ข่าว 20/12/2025 19:08

หญิงอายุ 28 ปี “แ.ก่ช.ราใ.นชั่.วข้า.มคื.น” โร.งพยา.บาลจ.นปัญ.ญารัก.ษานาน 11 ปี ความจริงที่เปิดเผยทำ

จากหญิงสาววัย 28 ผู้สดใสและสวยงาม เพียง “sau một đêm” โฮ่ว เฉวียนกลับดูราวกับผู้หญิงอายุเกิน 50 จนไม่กล้าส่องกระจก

หญิงสาวใน câu chuyện nàyคือ โฮ่ว เฉวียน (มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน) และสามีของเธอ จู้ จี้เชา ทั้งสองเป็นคนรักตั้งแต่วัยเด็ก แต่งงานมีครอบครัวอบอุ่น ลูกชายเกิดตอนเธออายุ 28 ปี ชีวิตเหมือนถึงจุดที่มีความสุขที่สุด

หลังคลอด โฮ่ว เฉวียนฟื้นตัวดี รูปร่างเกือบกลับมาเหมือนเดิม เมื่อกลับไปทำงานเพื่อนร่วมงานยังชมว่า “ดูไม่เหมือนคุณแม่เลย” แต่เวลาผ่านไปไม่นาน ความเปลี่ยนแปลงน่ากลัวก็เริ่มปรากฏ

แรกเริ่มเธอสังเกตว่าผิวหน้าหย่อนคล้อย มีริ้วรอยมากขึ้น คิดว่าเป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงหลังคลอด จึงดูแลผิวทุกทาง แต่ยิ่งนานยิ่งเลวร้าย
กระทั่งเช้าวันหนึ่ง เมื่อมองกระจก เธอแทบช็อก ใบหน้าหย่อนยาน โครงหน้าบิดเบี้ยว แก่เหมือนหญิงกว่า 50 ปี ทั้งที่เธอเพิ่ง 28 เท่านั้น

ความตกใจทำให้เธอร้องไห้และถามสามีซ้ำ ๆ ว่า
“ดูสิ… ฉันยังเหมือนเดิมไหม? ฉันแก่จริง ๆ ใช่ไหม?”

โรงพยาบาลตรวจทุกอย่าง… แต่ไม่พบโรค

ทั้งคู่รีบพาเธอไปตรวจ ตั้งแต่เลือด เอกซเรย์ ชิ้นเนื้อ ฮอร์โมน ทุกอย่างปกติ แพทย์ไม่สามารถระบุโรค และไม่มีแนวทางรักษา
เมื่อไม่พบสาเหตุ โฮ่ว เฉวียนทำได้เพียงมองใบหน้าตัวเองแก่ลงเรื่อย ๆ ความกดดันทางจิตใจทำให้เธอถูกเพื่อนร่วมงานหลีกเลี่ยง เพื่อนบ้านนินทา ออกไปข้างนอกกับลูก ก็มีคนคิดว่าเธอคือย่าของเด็ก

แม้แต่ลูกชายก็เริ่มสังเกตว่า “แม่ไม่เหมือนแม่ของคนอื่น”

รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปทำให้เธอหลีกเลี่ยงสังคม ไม่อยากออกจากบ้าน ไม่ถ่ายรูป และแม้แต่ในบ้านก็ไม่อยากให้มีกระจก
ภาวะจิตใจทรุดหนักจนหลายครั้งคิดสั้น แต่คนที่อยู่เคียงข้างไม่เคยหนีไปไหนคือสามี เขาบอกเสมอว่า ความงามไม่สำคัญ เพราะสุดท้ายทุกคนก็ต้องแก่ สิ่งสำคัญคือครอบครัวยังอยู่ด้วยกัน

ผ่านไป 11 năm… จึงรู้ชื่อโรคที่ “ขโมยวัยเยาว์”

เพื่อช่วยภรรยา สามีจึงติดต่อสื่อ เรื่องราว “หญิงสาวแก่ลงในชั่วข้ามคืน” กลายเป็นที่สนใจ
ในที่สุดหลัง 11 năm โฮ่ว เฉวียนได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคหายาก “Acquired Cutis Laxa – ภาวะผิวหนังหย่อนคล้อยอย่างผิดปกติ” โรคที่ทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่นรุนแรง ทั้งโลกพบผู้ป่วยไม่ถึง 10 ราย

โรคไม่ถึงขั้นเสียชีวิต แต่ไม่สามารถรักษาให้หายได้ ทำได้เพียงผ่าตัดและบำบัดจิตใจ เมื่อรู้ชื่อโรค เธอร้องไห้… ไม่ใช่เพราะ绝望 แต่เพราะอย่างน้อยเธอรู้ว่าเธอ “ไม่ใช่คนประหลาด” และวัยเยาว์ไม่ได้หายไปอย่างไร้เหตุผล

จนทุกวันนี้ จู้ จี้เชา ยังคงอยู่ข้างภรรยา พาเธอรักษาและเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตต่อไป
เขากล่าวเพียงความปรารถนาง่าย ๆ ว่า
“วันหนึ่งเมื่อเราทั้งคู่แก่จริง ๆ เธอจะไม่ต้องรู้สึกเจ็บปวดกับมันอีก”

เรื่องราวของโฮ่ว เฉวียนไม่เพียงเป็นโศกนาฏกรรมทางการแพทย์ที่หายาก แต่ยังเป็นบททดสอบแห่งความรัก ที่พิสูจน์ว่าเมื่อความงามหายไป สิ่งที่ยังคงอยู่คือการอดทนและการอยู่เคียงข้างกันอย่างแท้จริง

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่