หากพัดลมมี 3 อาการนี้ ควรหยุดใช้งานและตรวจสอบทันที

พัดลมเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่หลายบ้านขาดไม่ได้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่อากาศร้อนอบอ้าว แต่การใช้งานพัดลมที่มีอาการผิดปกติอาจก่อให้เกิดอันตรายถึงขั้นไฟไหม้ได้ ดังนั้น หากพบว่าพัดลมของคุณมีอาการต่อไปนี้ ควรหยุดใช้งานทันทีและรีบทำการตรวจสอบ

1. พัดลมส่งเสียงดังผิดปกติ

หากพัดลมเริ่มมีเสียงดังผิดปกติ เช่น เสียงครูด เสียงหอน หรือเสียงแตะๆ อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน อาจเป็นสัญญาณว่ามอเตอร์หรือชิ้นส่วนภายในมีความเสียหาย การฝืนใช้งานต่ออาจทำให้เกิดการเสียดสีจนเกิดความร้อนสูงและนำไปสู่ไฟฟ้าลัดวงจรได้

2. มีกลิ่นไหม้หรือกลิ่นแปลกปลอมขณะใช้งาน

กลิ่นไหม้หรือกลิ่นพลาสติกไหม้ระหว่างที่เปิดพัดลมใช้งาน เป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม อาจเกิดจากสายไฟเสื่อมสภาพหรือระบบไฟฟ้าภายในเริ่มเกิดความเสียหาย หากพบกลิ่นเหล่านี้ ควรรีบถอดปลั๊กและหยุดใช้งานทันทีเพื่อป้องกันอัคคีภัย

3. ใบพัดหมุนช้าลงหรือหยุดหมุนเป็นบางครั้ง

หากใบพัดพัดลมหมุนช้าลงกว่าปกติ หรือหมุนๆ หยุดๆ เป็นระยะ อาจเกิดจากมอเตอร์เริ่มเสื่อมหรือมีสิ่งกีดขวางภายในกลไก การฝืนใช้งานต่อไปไม่เพียงแต่จะทำให้พัดลมเสียหายมากขึ้น แต่ยังเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้จากความร้อนสะสม

ข้อควรปฏิบัติเมื่อพบอาการผิดปกติ

เมื่อพบว่าพัดลมมีอาการผิดปกติเหล่านี้ ควรรีบถอดปลั๊กทันที และนำพัดลมไปให้ช่างผู้ชำนาญตรวจสอบหรือเปลี่ยนเครื่องใหม่หากจำเป็น อย่าพยายามซ่อมแซมเองหากไม่มีความรู้ด้านไฟฟ้า เพราะอาจเสี่ยงต่ออันตรายได้

การดูแลรักษาพัดลมอย่างถูกวิธี

เพื่อยืดอายุการใช้งานและลดความเสี่ยงในการเกิดอันตราย ควรทำความสะอาดพัดลมเป็นประจำ เช่น เช็ดใบพัด ล้างตะแกรง และตรวจสอบสายไฟว่ามีรอยชำรุดหรือไม่ นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้งานพัดลมในบริเวณที่มีความชื้นสูง และไม่เสียบปลั๊กทิ้งไว้ตลอดเวลา

พัดลมที่ดูเหมือนเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าง่ายๆ หากไม่ใส่ใจดูแล อาจกลายเป็นแหล่งต้นเพลิงที่คาดไม่ถึงได้ ดังนั้นหมั่นสังเกตอาการผิดปกติและดูแลพัดลมให้ดี จะช่วยให้คุณใช้งานได้อย่างปลอดภัยและยืดอายุพัดลมได้นานขึ้น