5 อาหาร "อมตะ" หมดอายุแล้วก็ยังทานได้ ถ้าเก็บรักษาอย่างถูกวิธี

ถ้ารู้วิธีเก็บรักษาอาหาร 5 ชนิดนี้อย่างถูกต้อง คุณจะประหยัดเงินได้มาก เพราะแม้จะหมดอายุแล้ว แต่อาหารเหล่านี้ยังสามารถนำมารับประทานได้

ในความคิดของหลายคน อาหารที่หมดอายุคืออาหารที่เสื่อมสภาพและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยเฉพาะอาหารที่หมดอายุ อาจมีกลิ่นหรือรสชาติที่ไม่ดี สูญเสียคุณค่าทางโภชนาการ และอาจก่อให้เกิดสารพิษที่อันตรายต่อร่างกาย

แต่ในความเป็นจริง มีอาหาร 5 ชนิดที่ถ้าเก็บรักษาอย่างถูกต้องจะไม่มีวันหมดอายุ แม้ฉลากจะแสดงวันหมดอายุ การทิ้งอาหารเหล่านี้ก็เหมือนกับการทิ้งเงินไปเปล่า ๆ

1. ถั่วแห้ง

ถั่วแห้ง เช่น ถั่วเหลือง ถั่วเขียว และถั่วแดง มีปริมาณน้ำต่ำ จึงมีอายุการเก็บรักษานานประมาณ 2 ปี แต่ถ้าเก็บรักษาในสภาพที่ดี เช่น ปิดผนึกกันอากาศและเก็บในที่แห้ง อาจเก็บได้นานกว่า 10 ปี

สิ่งที่ต้องระวังคือแมลงที่อาจทำลายถั่ว การเก็บในภาชนะปิดสนิทและใส่พริกไทยดำลงไปช่วยป้องกันแมลงได้ แม้สีของถั่วอาจเข้มขึ้นแต่ยังคงทานได้ โดยแช่น้ำ 12 ชั่วโมงก่อนปรุง

---

2. เกลือ

เกลือที่ไม่ปนเปื้อนสามารถทานได้แม้หมดอายุ วันหมดอายุที่ระบุบนฉลากเป็นเพียงข้อกำหนดตามกฎหมาย ไม่ใช่อายุของเกลือจริง ๆ

เกลือไม่เสีย แต่ควรเก็บในที่แห้งและหลีกเลี่ยงความชื้น เพื่อป้องกันการจับตัวเป็นก้อน ซึ่งอาจทำให้ใช้งานลำบาก

---

3. เหล้า

เหล้าที่มีแอลกอฮอล์ ≥10% สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้และไม่เสีย แม้จะหมดอายุ เหล้าที่มีปริมาณแอลกอฮอล์สูงและผ่านกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนมักจะยิ่งมีกลิ่นหอมขึ้นเมื่อเก็บไว้นาน

อย่างไรก็ตาม ควรเก็บเหล้าในที่แห้งและเย็น

---

4. ชา

ใบชามีวันหมดอายุระบุไว้ แต่สามารถใช้ต่อได้แม้หมดอายุ

แม้กลิ่นและรสชาติของชาอาจจางลงหลังหมดอายุ แต่ถ้าไม่มีเชื้อรา ไม่มีกลิ่นแปลก ๆ ก็ยังสามารถดื่มได้ ควรเก็บในภาชนะที่ปิดสนิท หลีกเลี่ยงความชื้นและแสง

---

5. น้ำผึ้ง

มีรายงานว่าพบน้ำผึ้งอายุ 3,000 ปีในสุสานโบราณ และยังสามารถรับประทานได้ เพราะน้ำตาลในน้ำผึ้งสามารถฆ่าเชื้อได้

ควรเก็บน้ำผึ้งที่อุณหภูมิ 4-8 องศาเซลเซียส และรักษาความชื้นต่ำกว่า 50% เพื่อยืดอายุการเก็บรักษา หากน้ำผึ้งตกผลึก สามารถแช่ในน้ำอุ่นเพื่อกลับคืนสภาพเดิม

---

สรุป
อาหารเหล่านี้สามารถเก็บไว้ได้อย่างยาวนาน หากเก็บรักษาอย่างถูกวิธี อย่ารีบทิ้งโดยไม่ตรวจสอบ เพราะนั่นอาจเป็นการเสียทรัพยากรและเงินโดยเปล่าประโยชน์!