เมื่อไปตลาดเจอ 4 ลักษณะนี้ของมันฝรั่ง ให้แจกฟรีก็อย่าเอา! กินเข้าไปมีแต่ “ส.ะ.ส.ม.พิ.ษ” ในร่างกาย
จำเคล็ดลับเหล่านี้ไว้เพื่อช่วยให้คุณเลือกมันฝรั่งที่ดีขึ้น และหลีกเลี่ยงการนำ “เชื้อโรค” เข้าบ้าน
มันฝรั่ง เป็นวัตถุดิบที่คุ้นเคย ราคาไม่แพงและปรุงง่าย อุดมไปด้วยสารอาหาร แต่ไม่ใช่มันฝรั่งทุกหัวที่จะปลอดภัยสำหรับการบริโภค เชฟมืออาชีพและผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการอย่าง Papuchan (ญี่ปุ่น) ได้ออกมาเตือนถึงมันฝรั่ง 4 ลักษณะที่ไม่ควรรับประทาน แม้จะได้มาฟรี เพราะอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
1. มันฝรั่งที่เปลือกเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียว
เชฟ Papuchan อธิบายว่า มันฝรั่งที่เปลี่ยนเป็นสีเขียวเกิดจากการสัมผัสแสงที่ไม่เหมาะสม เช่น แสงแดดหรือแสงไฟนีออน การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้สร้างเพียงคลอโรฟิลล์ (ซึ่งไม่เป็นอันตราย) แต่ยังกระตุ้นให้เกิดโซลานีน (solanine) ซึ่งเป็นสารพิษตามธรรมชาติ หากบริโภคในปริมาณมาก โซลานีนอาจทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ ท้องเสีย หรือแม้กระทั่งระบบประสาทผิดปกติ
สิ่งที่น่ากังวลคือ สารพิษนี้ไม่สลายตัวแม้จะผ่านการปรุงอาหาร หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าแค่ตัดส่วนที่เป็นสีเขียวออกก็เพียงพอ แต่เชฟ Papuchan เตือนว่าแสงในครัวอาจทำให้ส่วนที่ปนเปื้อนยากต่อการสังเกต วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือทิ้งมันฝรั่งทั้งหัว หากมีส่วนหนึ่งของมันฝรั่งเป็นสีเขียว
2. มันฝรั่งที่เหี่ยว นิ่ม หรือมีน้ำไหล
นี่คือลักษณะที่บ่งบอกว่ามันฝรั่งเสื่อมสภาพเนื่องจากเก็บไว้นานเกินไป เมื่อมันฝรั่งสูญเสียน้ำ เปลือกจะเหี่ยว หัวจะนิ่มและมีโอกาสถูกแบคทีเรียหรือเชื้อรารุกราน หากมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวหรือกลิ่นแปลก ๆ นั่นหมายความว่ามันฝรั่งเริ่มเน่า ซึ่งอาจผลิตสารพิษอย่างอะฟลาทอกซิน (aflatoxin) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งที่อันตรายหากสะสมในร่างกาย
แม้ว่าหลายคนอาจพยายามนำส่วนที่ยังดีมาปรุงอาหาร แต่เชื้อโรคบางชนิดไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า การกินมันฝรั่งที่เสียอาจส่งผลต่อระบบย่อยอาหารและสุขภาพตับและถุงน้ำดีอย่างรุนแรง
3. มันฝรั่งที่มีหน่อขึ้น
Papuchan เตือนว่า มันฝรั่งที่มีหน่อขึ้นถือเป็น “มันฝรั่งพิษ” เพราะหน่อของมันฝรั่งมีโซลานีนในปริมาณสูง โดยเฉพาะบริเวณโคนหน่อและส่วนรอบ ๆ ยิ่งหน่อยาวเท่าไร สารพิษก็ยิ่งสะสมมากขึ้นและอาจทำให้เกิดอาการเป็นพิษหากบริโภคเข้าไป
ถึงแม้ว่าบางคนอาจตัดส่วนที่มีหน่อออกแล้วนำมาปรุงอาหาร แต่หากมันฝรั่งมีหน่อขึ้น ทางที่ดีที่สุดคือไม่ควรรับประทาน เนื่องจากสารพิษอาจกระจายไปทั่วทั้งหัวและไม่สามารถกำจัดได้แม้จะผ่านการปรุงอาหาร
4. มันฝรั่งที่มีจุดดำหรือเปลือกช้ำ
จุดดำหรือรอยช้ำบนมันฝรั่งอาจเกิดจากการกระแทกระหว่างการเก็บเกี่ยวหรือขนส่ง แต่ในบางครั้งก็อาจบ่งบอกถึงการปนเปื้อนเชื้อราหรือแบคทีเรีย หากจุดดำเหล่านี้ลุกลามหรือกินลึกเข้าไปในเนื้อมันฝรั่ง อาจมีการปนเปื้อนเชื้อราที่ผลิตสารพิษ
Papuchan แนะนำให้สังเกตมันฝรั่งอย่างละเอียด หากจุดดำลุกลามหรือหัวมันฝรั่งเริ่มนิ่ม มีกลิ่น ควรทิ้งทันที การรับประทานมันฝรั่งที่เริ่มเน่าหรือปนเปื้อนเป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อสุขภาพตับ ไต และระบบภูมิคุ้มกัน
วิธีเก็บรักษามันฝรั่ง
เพื่อป้องกันไม่ให้มันฝรั่งเปลี่ยนเป็นสีเขียวหรือมีหน่อ เชฟ Papuchan แนะนำให้เก็บมันฝรั่งในที่แห้ง เย็น และมืด วิธีที่ดีที่สุดคือห่อด้วยผ้าหรือกระดาษหนังสือพิมพ์แล้วใส่ในถุงกระดาษ หลีกเลี่ยงแสงตรงจากไฟหรือหน้าต่าง ไม่ควรเก็บมันฝรั่งใกล้เตาหรือในตู้เย็น เนื่องจากอุณหภูมิต่ำอาจกระตุ้นให้มันฝรั่งงอกหน่อเร็วขึ้น
นอกจากนี้ มันฝรั่งที่เพิ่งซื้อควรบริโภคภายใน 7 วัน เนื่องจากมันฝรั่งสดมีน้ำในปริมาณมากและเน่าเสียได้ง่ายเมื่อเก็บไว้นาน ควรเลือกหัวมันฝรั่งที่แน่นมือ ไม่มีรอยย่น จุดดำ หรือหน่อเล็ก ๆ ที่โผล่ออกมา