คนละครึ่งพลัส เฟส 2 มาแน่ แย้มเริ่มเดือนม.ค.2569 แค่เฉพาะกลุ่มไม่ได้เฟสแรก เตรียมไปหารือ กกต. หากเป็นช่วงยุบสภา
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ(กนศ.) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานรับทราบรายงานความก้าวหน้าโครงการคนครึ่ง พลัส ซึ่งเปิดให้ประชาชนผู้มีสิทธิ์เข้าโครงการลงทะเบียนเป็นวันแรกตามนโยบาย Quick Big Win ของรัฐบาล ปรากฎว่าได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมาก ส่วนฝั่งร้านค้ามีผู้ประกอบการลงทะเบียนแล้วประมาณ 300,000 ร้านค้า รวมถึงการรับทราบความก้าวหน้าในการใช้ Dashboard ติดตามโครงการตามนโยบาย Quick Big Win

ส่วนประชาชนที่ลงทะเบียนแล้ว ได้รับการแจ้งเตือนว่า กำลังตรวจสอบสิทธิ์ จะแจ้งให้ทราบภายใน 3 วันนั้นจะได้รับสิทธิ์หรือไม่ หมายความว่า ท่านได้จองสิทธิ์แล้ว ซึ่งหลังจากจะมีการตรวจสอบ ว่าท่านมีคุณสมบัติได้รับสิทธิ์หรือไม่ ซึ่งหากได้รับสิทธิ์จะมีข้อความ แจ้งเตือนว่าได้รับสิทธิ์ 2,000 บาท หรือ 2,400 บาท ไม่ต้องไปรอเข้าแถวใหม่
แต่ถ้ามีข้อความแจ้งเตือนว่า ท่านไม่ได้รับสิทธิ์ หมายความว่า ท่านอาจจะขาดคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่งของสิทธิ์ที่ได้แจ้งไว้ตั้งแต่ต้น ซึ่งเบื้องต้นมีประชาชนจำนวนหนึ่งได้รับการแจ้งว่าได้รับสิทธิ์
ส่วนกรณีเป็นผู้เสียภาษี แต่ได้รับสิทธิ์ 2,000 บาท ไม่ได้รับสิทธิ์ 2,400 บาทนั้น ได้รับการชี้แจงจากกระทรวงการคลังแล้วว่า ผู้ที่จะได้รับสิทธิ์ 2,400 บาท จะต้องเป็นผู้ยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับผู้มีเงินได้กรณีทั่วไป (ภ.ง.ด. 90)
ผู้ที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้มีเงินได้จากการจ้างแรงงาน ตามมาตรา 40 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ประเภทเดียว (ภ.ง.ด. 91)
ผู้ที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ได้รับสิทธิ์ลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 95) ของปีภาษี 2567 ณ วันที่ 30 มิ.ย.2568 เท่านั้น
นายสิริพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของประชาชนที่ไม่ได้รับสิทธิ์ คนละครึ่งพลัส ในเฟสแรกที่จะสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2568 นี้ จะมีการพิจารณาขยายสิทธิให้ได้รับสิทธิ์ในเฟส 2 ช่วงเดือนม.ค.2569 จากงบกลางกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนของผู้ประกอบการร้านถุงเงินที่จะต้องมีการ อัพสกิล/รีสกิล ที่จะจัดสรรให่ในแอปพลิเคชันถุงเงิน
ส่วนข้อกังวลที่หลายฝ่ายเกรงว่า จะมีการยุบสภาช่วงเดือนม.ค.2569 ทำให้ไม่สามารถดำเนินโครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2 ได้ต่อเนื่องนั้น คงเป็นเรื่องที่ต้องหยิบยกไปถามคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
อย่างไรก็ตาม ปัญหาความไม่สะดวกในการยืนยันตัวตนของประชาชนที่สาขา และตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยนั้น นายกรัฐมนตรีได้ย้ำกับธนาคารกรุงไทยให้พัฒนาระบบเพิ่มเติม รวมถึงการลงทะเบียนร้านค้าถุงเงินของผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้รับความสะดวก ทางธนาคารได้ประสานกับกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ประสานความร่วมมือ เพื่ออำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ คาดว่าในสัปดาห์นี้สถานการณ์จะคลี่คลาย