สุขภาพ 20/10/2025 23:03

คนเสี.ย.ชี.วิ.ตจาก “ไ.ต.ว.า.ย” เพิ่มขึ้นทุกวัน แพทย์เตือน: อย่าดื่มน้ำ 4 ชนิดนี้เด็ดขาด!

คนเสี.ย.ชี.วิ.ตจาก “ไ.ต.ว.า.ย” เพิ่มขึ้นทุกวัน แพทย์เตือน: อย่าดื่มน้ำ 4 ชนิดนี้เด็ดขาด!

“ถ้าไม่อยากให้ไตพัง จนต้องฟอกไตทรมานในอนาคต ควรหยุดดื่มน้ำ 4 ชนิดนี้ทันที ดื่มน้ำเปล่าอุณหภูมิห้องยังดีต่อสุขภาพกว่าหลายร้อยเท่า” — คำเตือนจากแพทย์

นายจาง อายุ 65 ปี เป็นคนสุขภาพแข็งแรง รักการออกกำลังกายและดูแลตัวเองดีเสมอ ทุกเช้าเขาตื่นมาวิ่งตอนตีห้า เข้านอนตรงเวลา จนใครๆ ต่างชื่นชมว่า “แข็งแรงเหมือนคนหนุ่ม”


Ngày càng nhiều người tử vong vì suy thận, bác sĩ khuyên: Chớ dại đụng 4 loại nước này- Ảnh 4.


แต่เมื่อไม่นานมานี้ ระหว่างตรวจสุขภาพประจำปี ผลตรวจกลับทำให้เขาตกใจ — ไตเสื่อมอย่างรุนแรง ค่าการทำงานของไตเกินมาตรฐานที่ปลอดภัย

แพทย์อธิบายว่า “ไต” เป็นอวัยวะที่บอบบางมาก ยิ่งอายุมากขึ้น ความสามารถในการกรองของเสียจะลดลง หากไม่ระวัง อาจนำไปสู่ภาวะไตวายได้โดยไม่รู้ตัว
หลังจากสอบถามพฤติกรรมประจำวัน แพทย์พบว่า ต้นเหตุของการทำลายไตของนายจาง อยู่ที่นิสัยดื่มน้ำประจำวัน โดยเฉพาะน้ำ 4 ชนิดที่เขาเข้าใจผิดว่าดีต่อสุขภาพ


1. น้ำอัดลมและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล

ทุกเช้า นายจางดื่มน้ำอัดลมหนึ่งขวดเพื่อ “เติมพลัง” แต่แท้จริงแล้วนี่คือ ตัวการทำร้ายไตอย่างเงียบๆ
แพทย์อธิบายว่า เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เช่น น้ำอัดลม หรือน้ำผลไม้บรรจุขวด มีน้ำตาลและสารให้ความหวานสังเคราะห์ในปริมาณมาก
น้ำตาลทำให้ระบบเผาผลาญผิดปกติ เพิ่มภาระให้กับตับอ่อนและไต และในระยะยาวอาจนำไปสู่ โรคเบาหวานและโรคอ้วน ซึ่งเป็นสองสาเหตุหลักของภาวะไตวาย
เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูงนานๆ หลอดเลือดฝอยในไตจะถูกทำลาย ทำให้ไตค่อยๆ สูญเสียความสามารถในการกรองของเสีย


2. กาแฟและชาเข้มข้น

หลายคนมองว่ากาแฟหรือชาเข้มคือ “พลังงานยามเช้า” แต่รู้หรือไม่ว่าดื่มมากเกินไปทำให้ไตต้องทำงานหนักเกินตัว
คาเฟอีนในกาแฟและชามีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ช่วยให้ร่างกายขับน้ำออก แต่หากดื่มมากเกินไปจะทำให้ ร่างกายขาดน้ำและเสียสมดุลเกลือแร่
เมื่อไตต้องทำงานขับของเสียอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีเวลาพัก ระบบกรองเลือดจะเสื่อมเร็วขึ้น โดยเฉพาะในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีโรคไตอยู่แล้ว ควรหลีกเลี่ยงหรือดื่มเพียงเล็กน้อย และควรเลือกดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำเปล่าแทน


3. น้ำแร่ที่มีโซเดียมสูง

หลายคนเชื่อว่าการดื่มน้ำแร่ “ช่วยบำรุงร่างกาย” แต่ในความเป็นจริง น้ำแร่บางชนิดมีปริมาณโซเดียม แคลเซียม แมกนีเซียม หรือซัลเฟตสูงเกินไป
การดื่มน้ำแร่ที่มีเกลือแร่เข้มข้นมากเป็นประจำจะทำให้ไตต้องทำงานหนักในการกรองของเสีย โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาไตหรือความดันโลหิตสูงอยู่แล้ว
แพทย์แนะนำให้ตรวจฉลากทุกครั้ง และเลือกน้ำแร่ที่มีปริมาณแร่ธาตุต่ำ หรือดีที่สุดคือ น้ำสะอาดบริสุทธิ์


4. น้ำที่มีสารกันเสียหรือไม่มีแหล่งที่มาชัดเจน

ปัจจุบันตามท้องตลาดมีน้ำบรรจุขวด น้ำปรุงรส น้ำไม่หวาน หรือน้ำให้พลังงานมากมาย
แม้จะโฆษณาว่า “ช่วยดีท็อกซ์ เติมแร่ธาตุให้ร่างกาย” แต่ส่วนใหญ่กลับมี สารกันเสีย กลิ่นสังเคราะห์ และสารให้ความหวานเทียม ซึ่งทั้งหมดเป็นภาระต่อไต
งานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่า สารให้ความหวานเทียมบางชนิดอาจทำให้ไตเสื่อมลงทีละน้อย หากบริโภคต่อเนื่องในระยะยาว
ดังนั้น อย่าหลงเชื่อคำว่า “healthy” บนฉลากสินค้า ทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุดคือ น้ำสะอาดหรือน้ำต้มสุก


การปกป้องไตเริ่มได้จาก “แก้วน้ำทุกวัน”

โรคไตไม่ได้เกิดขึ้นทันทีทันใด — ในระยะเริ่มแรกแทบไม่มีอาการผิดปกติ จนกว่าจะรู้สึกอ่อนเพลีย บวม หรือปัสสาวะผิดปกติ ซึ่งมักจะสายเกินไป
แพทย์จึงแนะนำว่า การดื่มน้ำให้เพียงพอ เลือกน้ำที่สะอาด และหลีกเลี่ยงน้ำ 4 ชนิดข้างต้น คือ วิธีป้องกันไตเสื่อมที่ดีที่สุด
หากมีอาการผิดปกติ เช่น ปัสสาวะน้อย ปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน หรือมีอาการบวมตามมือเท้า ควรรีบไปพบแพทย์เฉพาะทางโรคไต เพื่อรับการตรวจและรักษาอย่างเหมาะสม

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่