เคล็ดลับ 31/10/2025 20:35

ตู้เย็นมีปุ่มเล็กๆ กดแล้วช่วยประหยัดค่าไฟได้เป็นหมื่น หลายคนไม่รู้

ตู้เย็นมีปุ่มเล็กๆ กดแล้วช่วยประหยัดค่าไฟได้เป็นหมื่น หลายคนไม่รู้

Tủ lạnh nào cũng có 1 "dãy số bí mật", bạn mà chỉnh đúng thì ...

ปัจจุบัน ตู้เย็นเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ในแทบทุกครัวเรือน ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งฤดูร้อนและฤดูหนาว ช่วยเก็บรักษาอาหารให้สดใหม่ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากต้องทำงานตลอดเวลา ตู้เย็นจึงเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้ามากที่สุดในบ้าน มีน้อยคนที่รู้ว่าในตู้เย็นมีปุ่มเล็กๆ ที่สามารถปรับในฤดูหนาวเพื่อช่วยลดค่าไฟได้มาก

อันที่จริง จำนวนค่าไฟที่ลดลงขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้งานของแต่ละบ้าน ตลอดระยะเวลาที่ใช้งาน บางพฤติกรรมสามารถช่วยลดพลังงานที่ตู้เย็นใช้ได้โดยเฉพาะในฤดูหนาว เพียงแค่ปรับปุ่มควบคุมอุณหภูมิเล็กน้อย สามารถประหยัดค่าไฟได้

วิธีปรับอุณหภูมิตู้เย็นเพื่อช่วยประหยัดไฟในฤดูหนาว

ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องใช้ไฟฟ้าแนะนำว่าในฤดูหนาว ควรปรับอุณหภูมิตู้เย็นให้ต่ำลงเพื่อประหยัดพลังงาน สำหรับตู้เย็นสมัยใหม่ ส่วนใหญ่มักมีระดับอุณหภูมิที่สามารถตั้งค่าได้ตั้งแต่ 1-5 หรือ 1-6 ระหว่างฤดูร้อน อาจต้องตั้งอุณหภูมิไว้ในระดับสูงสุดหรือใกล้สูงสุด แต่ในฤดูหนาว สามารถปรับลดลงเหลือระดับ 2-3 หรือระดับ 1 ก็ได้

ที่ระดับ 1 อุณหภูมิภายในตู้เย็นจะอยู่ระหว่าง 2-5 องศาเซลเซียส ซึ่งเพียงพอสำหรับการเก็บรักษาอาหารโดยไม่ทำให้ตู้เย็นต้องทำงานหนักเกินไป ส่งผลให้ประหยัดพลังงานได้

วิธีนี้สามารถนำไปใช้กับช่องแช่แข็งได้เช่นกัน หากไม่ได้เก็บอาหารสดจำนวนมาก เช่น เนื้อสัตว์หรืออาหารทะเล ก็สามารถลดอุณหภูมิลงได้ แต่หากมีอาหารสดจำนวนมาก ควรตั้งอุณหภูมิช่องแช่แข็งไว้ที่ -18 องศาเซลเซียส เพื่อป้องกันแบคทีเรียและช่วยให้อาหารคงสภาพได้นานขึ้น

Bạn đã sử dụng 2 nút điều chỉnh nhiệt độ trong tủ lạnh đúng cách

เคล็ดลับเพิ่มเติมเพื่อช่วยประหยัดไฟจากตู้เย็น

นอกจากการปรับอุณหภูมิในฤดูหนาวแล้ว ยังมีทิปอื่นๆ ที่ช่วยลดการใช้พลังงานของตู้เย็น ได้แก่

1. วางตู้เย็นในตำแหน่งที่เหมาะสม
ด้านหลังและด้านข้างของตู้เย็นเป็นบริเวณที่ใช้ระบายความร้อน หากวางตู้เย็นชิดผนังหรือสิ่งกีดขวางมากเกินไป อาจทำให้การระบายความร้อนลดลง ส่งผลให้ตู้เย็นทำงานหนักขึ้น ควรเว้นระยะห่างจากผนังหรือสิ่งกีดขวางอย่างน้อย 10-15 ซม.

นอกจากนี้ ไม่ควรวางตู้เย็นใกล้กับอุปกรณ์ให้ความร้อน เช่น ไมโครเวฟ เตาอบ หรือเตาไฟฟ้า เพราะจะทำให้ตู้เย็นทำงานหนักขึ้นเพื่อรักษาอุณหภูมิที่เหมาะสม

2. ลดการเปิดประตูตู้เย็นเป็นเวลานาน
การเปิดประตูตู้เย็นบ่อยหรือเปิดทิ้งไว้นานเกินไปทำให้ความเย็นภายในสูญเสียไป และคอมเพรสเซอร์ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อรักษาอุณหภูมิให้คงที่ ส่งผลให้ใช้พลังงานมากขึ้น ดังนั้น ควรเปิดประตูเฉพาะเมื่อต้องการหยิบของ และปิดให้แน่นทันทีหลังใช้งาน

3. เก็บอาหารในภาชนะที่เหมาะสม
การเก็บอาหารในภาชนะที่ทำจากแก้วหรือเซรามิกจะช่วยรักษาความเย็นได้นานกว่าภาชนะพลาสติก ทำให้ตู้เย็นไม่ต้องทำงานหนักเกินไป ควรจัดเรียงภาชนะในตู้เย็นให้เป็นระเบียบเพื่อให้การไหลเวียนของความเย็นมีประสิทธิภาพมากขึ้น

4. ทำความสะอาดตู้เย็นเป็นประจำ
การทำความสะอาดตู้เย็นทุก 1-3 เดือนช่วยลดฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกที่อาจอุดตันช่องระบายอากาศ หากช่องลมภายในตู้เย็นอุดตัน คอมเพรสเซอร์จะต้องทำงานหนักขึ้น ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานมากขึ้น

การใช้วิธีเหล่านี้ร่วมกับการปรับอุณหภูมิตามฤดูกาลจะช่วยให้ตู้เย็นของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยลดค่าไฟได้อย่างมาก

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่