สุขภาพ 19/12/2025 08:00

อาหาร 4 กลุ่มที่ไม่ควรกินคู่กับนม หากไม่อยากก่อปัญหาให้ร่างกาย

ด้านล่างนี้คืออาหารที่ ไม่ควรรับประทานร่วมกับนม ซึ่งครอบครัวควรใส่ใจเป็นพิเศษ เพื่อปกป้องสุขภาพทั้งเด็กเล็กและผู้สูงอายุ
Kết hợp sữa với thực phẩm giàu tinh bột có thể gây đầy hơi.

อาหารที่ไม่ควรกินคู่กับนม

1. นม + อาหารหวานที่มีแป้งสูง
เช่น มันเทศ มันม่วง กล้วยสุก เป็นต้น

แป้งเมื่อเข้าสู่ปากจะถูกย่อยหลัก ๆ โดยเอนไซม์อะไมเลสในน้ำลาย แต่เมื่อเข้าสู่กระเพาะอาหารซึ่งมีสภาพเป็นกรด การทำงานของเอนไซม์นี้จะลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้แป้งจำนวนมากยังย่อยไม่สมบูรณ์และถูกส่งต่อไปยังลำไส้เล็ก

เมื่อแป้งที่ย่อยไม่หมดไปเจอกับแลคโตสและแคลเซียมในนม จะเกิดกระบวนการหมัก ทำให้เกิดแก๊สจำนวนมาก

โดยเฉพาะขณะท้องว่างหรือหลังรับประทานอาหารมื้อใหญ่ จุลินทรีย์ในลำไส้ต้องทำงานหนัก ส่งผลให้เกิดอาการท้องอืด เรอ แน่นท้อง หรือแม้แต่ปวดเกร็งได้
👉 การดื่มนมร่วมกับอาหารที่มีแป้งสูงอาจทำให้ท้องอืดได้ง่าย

2. นม + ผักที่มีกรดออกซาลิกสูง
เช่น ผักโขม ผักโขมแดง หน่อไม้

กรดออกซาลิกจะจับตัวกับแคลเซียมในนม กลายเป็นแคลเซียมออกซาเลต ซึ่งเป็นสารตกตะกอนและถูกขับออกทางอุจจาระ

แม้ผลเสียอาจไม่เห็นชัดในทันที แต่ในระยะยาวอาจลดการดูดซึมแคลเซียม และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในไต

หลายคนชอบผสมน้ำผักสีเขียวแบบผงกับนมร้อน โดยเชื่อว่าดีต่อสุขภาพ แต่ในความเป็นจริง เพียงแก้วเดียวก็อาจมี “วัตถุดิบตั้งต้นของนิ่วในไต” อยู่แล้ว

3. นม + น้ำผลไม้ที่มีความเป็นกรดสูง
เช่น น้ำส้ม น้ำกีวี

น้ำผลไม้ที่มีค่า pH ต่ำกว่า 4.6 สามารถทำให้เคซีนในนมจับตัวเป็นก้อนอย่างรวดเร็ว ส่งผลต่อการเคลื่อนตัวของอาหารออกจากกระเพาะ และอาจทำให้เกิดอาการท้องเสียในผู้ที่ระบบย่อยอาหารไวต่อการระคายเคือง

อาหารเช้าแบบ “นมกับน้ำส้ม” ที่ดูเหมือนดีต่อสุขภาพ แท้จริงแล้วอาจกลายเป็นตัวกระตุ้นอาการท้องเสีย โดยเฉพาะในผู้ที่ไม่ทนต่อแลคโตส
👉 การดื่มนมร่วมกับน้ำผลไม้เปรี้ยว อาจทำให้ท้องเสียได้ง่าย

Kết hợp sữa + nước dễ gây tiêu chảy
4. นม + เนื้อสัตว์แปรรูป

เช่น ไส้กรอก เบคอน แฮม

อาหารแปรรูปเหล่านี้มีโซเดียมสูง การรับประทานร่วมกับนมเป็นประจำไม่ดีต่อเยื่อบุทางเดินอาหาร

สภาพแวดล้อมที่มีโซเดียมสูงจะเพิ่มการขับแคลเซียมออกทางปัสสาวะ เปรียบเหมือน “ซ่อมไปก็รั่วไป” นอกจากนี้ ไนไตรต์ในเนื้อแปรรูปยังสามารถทำปฏิกิริยากับโปรตีนในนม ก่อให้เกิดไนโตรซามีนในปริมาณเล็กน้อย ซึ่งหากบริโภคต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจเป็นอันตรายต่อเยื่อบุระบบทางเดินอาหารได้

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่