ต้มไข่แบบนี้เป็นอันตราย แต่หลายคนเข้าใจผิดว่าดี

ไข่ต้มเป็นอาหารที่หลายคนชื่นชอบและนิยมรับประทานกันทั่วโลก เนื่องจากมีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ อย่างไรก็ตาม วิธีการต้มไข่ที่ผิดอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพแต่หลายคนไม่เคยรู้

1. ต้มไข่ในน้ำเดือดนานเกินไป

หลายคนคิดว่าการต้มไข่นานๆ จะทำให้ไข่สุกดีและปลอดภัยต่อการรับประทาน แต่ในความเป็นจริง หากต้มไข่นานเกินไป ไข่แดงอาจเกิดปฏิกิริยาทางเคมีระหว่างธาตุเหล็กในไข่แดงและซัลเฟอร์ในไข่ขาว ทำให้เกิด "วงแหวนสีเขียว" รอบไข่แดง ซึ่งเป็นสัญญาณของการเกิดสารประกอบซัลไฟด์ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพหากรับประทานเป็นประจำ

2. ใช้ไมโครเวฟต้มไข่ทั้งเปลือก

การนำไข่ทั้งฟองไปต้มในไมโครเวฟเป็นเรื่องที่หลายคนทำโดยไม่รู้ว่ามันอันตรายมาก เมื่อไข่ถูกให้ความร้อนจากไมโครเวฟ แรงดันภายในไข่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ไข่อาจระเบิดออกมาขณะปรุงหรือแม้แต่ขณะที่นำออกมาจากไมโครเวฟ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุและทำให้เกิดแผลไหม้ได้

3. ต้มไข่ในน้ำเดือดจัดทันทีโดยไม่เริ่มจากน้ำเย็น

บางคนเข้าใจผิดว่าการต้มไข่ต้องใส่ลงไปในน้ำเดือดจัดทันที ซึ่งอาจทำให้เปลือกไข่แตกร้าวและทำให้ไข่ขาวรั่วออกมา นอกจากนี้ การเปลี่ยนอุณหภูมิอย่างฉับพลันอาจทำให้ไข่มีลักษณะเหนียวและยากต่อการปอกเปลือก ทางที่ดีควรเริ่มจากน้ำเย็นแล้วค่อยๆ เพิ่มความร้อนขึ้นเพื่อให้ไข่สุกอย่างสม่ำเสมอ

4. แช่ไข่ร้อนในน้ำเย็นทันที

หลายคนเชื่อว่าการนำไข่ที่เพิ่งต้มเสร็จไปแช่ในน้ำเย็นทันทีจะช่วยให้ปอกเปลือกง่ายขึ้น แม้ว่าจะช่วยในบางกรณี แต่ถ้าน้ำเย็นจัดเกินไป อาจทำให้เปลือกไข่ติดแน่นกับไข่ขาวมากขึ้น ทำให้ปอกยากขึ้น และอาจทำให้ไข่เสียรูปทรง

วิธีต้มไข่ที่ถูกต้องและปลอดภัย

1. เริ่มจากน้ำเย็น: ใส่ไข่ลงไปในหม้อพร้อมกับน้ำเย็น แล้วค่อยๆ เพิ่มความร้อน
2. ตั้งไฟปานกลาง: ปล่อยให้น้ำเดือดเบาๆ ไม่ต้องเดือดพล่าน
3. จับเวลา: ต้มไข่ในระยะเวลาที่เหมาะสม (เช่น 7-9 นาทีสำหรับไข่ยางมะตูม และ 10-12 นาทีสำหรับไข่ต้มสุก)
4. ปล่อยให้เย็นเอง: เมื่อครบเวลา ให้ยกไข่ออกจากน้ำร้อนและพักไว้สักครู่ก่อนปอก

การรู้วิธีต้มไข่ที่ถูกต้องไม่เพียงช่วยให้ได้ไข่ที่อร่อยและสวยงาม แต่ยังช่วยป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดได้อีกด้วย อย่าลืมแชร์ข้อมูลนี้ให้เพื่อนๆ และครอบครัวคุณเพื่อให้ทุกคนได้รับประทานไข่อย่างปลอดภัยและมีประโยชน์ที่สุด!