ความจริง 31/10/2025 20:39

ผลไม้กินก่อนหรือหลังอาหาร? เจาะลึก 5 ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับเวลากินผลไม้

ผลไม้กินก่อนหรือหลังอาหาร เจาะลึก 5 ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับเวลากินผลไม้ กินตอนไหนดีที่สุด? 

ความเชื่อที่บอกว่ามี “เวลาที่ดีที่สุด” หรือ “เวลาที่แย่ที่สุด” ในการกินผลไม้ ไม่ได้มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ การกินผลไม้เป็นวิธีที่ดีและอร่อยในการเติมสารอาหารให้ร่างกาย ไม่ว่าคุณจะกินเวลาใดของวันก็ตาม


ปัจจุบันมีการเผยแพร่ข้อมูลผิด ๆ เกี่ยวกับโภชนาการบนอินเทอร์เน็ตมากมาย โดยเฉพาะเรื่อง “เวลาที่เหมาะสมในการกินผลไม้” ซึ่งมักมาพร้อมคำแนะนำที่ไม่มีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์รองรับ บทความนี้จะเจาะลึก 5 ความเชื่อผิดยอดนิยม พร้อมข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ประกอบ เพื่อให้คุณกินผลไม้ได้อย่างสบายใจ

5 ความเชื่อผิด ๆ ที่ต้องทำความเข้าใจ

ความเชื่อที่ 1: ต้องกินผลไม้ตอนท้องว่างเท่านั้น


มีคนเชื่อว่าการกินผลไม้พร้อมมื้ออาหารจะทำให้ย่อยช้า เกิดการหมักในกระเพาะอาหาร และทำให้ท้องอืด แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไฟเบอร์ในผลไม้เพียงแค่ทำหน้าที่ ชะลอการย่อยอาหาร ตามธรรมชาติเท่านั้น


การศึกษาในปี 2014 พบว่าผู้ที่กินเพกติน (ไฟเบอร์ชนิดหนึ่งในผลไม้) มีอัตราการย่อยอาหารช้ากว่ากลุ่มปกติเล็กน้อย ซึ่งการชะลอการย่อยนี้ไม่ได้ทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงในระบบย่อยอาหาร หรือทำให้เกิดแก๊สมากกว่าปกติ การอ้างว่าต้องกินตอนท้องว่างเพื่อลดแก๊สจึงไม่มีหลักฐานยืนยัน



ความเชื่อที่ 2: กินผลไม้ก่อนหรือหลังอาหารทำให้สารอาหารลดลง

ความเชื่อนี้ไม่มีหลักฐานยืนยันเช่นกัน เนื่องจากระบบย่อยอาหารและลำไส้ของคนเราถูกออกแบบมาให้ดูดซึมสารอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่แล้ว ไม่ว่าจะกินผลไม้ก่อนหรือหลังมื้ออาหารหลัก


ลำไส้เล็กของมนุษย์มีความยาวราว 6 เมตร และมีพื้นที่ผิวในการดูดซึมสารอาหารที่กว้างขวางมากกว่า 30 ตารางเมตร ทำให้สามารถรับสารอาหารที่จำเป็นจากผลไม้ได้อย่างเต็มที่เสมอ

ความเชื่อที่ 3: ผู้ป่วยเบาหวานควรกินผลไม้แยกมื้ออาหาร

แนวคิดที่ให้ผู้ป่วยเบาหวานกินผลไม้แยกจากอาหารหลัก 1–2 ชั่วโมงนั้น ไม่มีหลักฐานรองรับ ในทางกลับกัน การกินผลไม้แยกมื้ออาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งขึ้นเร็วกว่าเดิม


ผู้ป่วยเบาหวานควรกินผลไม้ร่วมกับอาหารหรือของว่างที่มี โปรตีน ไขมัน หรือไฟเบอร์สูง เพราะสารอาหารเหล่านี้จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมน้ำตาลช้าลง ลดการเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดหลังมื้ออาหาร ผลไม้ที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ เช่น เบอร์รี แอปเปิ้ล และฝรั่ง จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า

ความเชื่อที่ 4: ควรกินผลไม้ตอนเช้าเท่านั้น

ไม่มีหลักฐานใดสนับสนุนว่าช่วงเช้าคือเวลาที่ดีที่สุดในการกินผลไม้ แม้จะมีการกล่าวอ้างว่าการกินผลไม้ตอนเช้าช่วย “ปลุกระบบย่อย” แต่จริง ๆ แล้วระบบย่อยอาหารของเราสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดเวลา


ผลไม้ให้พลังงานและสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายได้ดีในทุกช่วงของวัน ดังนั้นจึงสามารถกินได้ตามความสะดวกและความต้องการพลังงาน

Ăn trái cây cùng với cơm, ăn trước hoặc ngay sau bữa ăn, liệu có tốt?


ความเชื่อที่ 5: ห้ามกินผลไม้หลัง บ่าย 2 โมง

ความเชื่อนี้มักมาจากโปรแกรมลดน้ำหนักบางสูตรที่อ้างว่าร่างกายจะเผาผลาญน้ำตาลไม่ทันในตอนบ่าย ทำให้เกิดการสะสมและน้ำหนักเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ที่ชี้ว่าการกินผลไม้ช่วงบ่ายจะทำให้ระดับน้ำตาลสูงกว่าการกินในเวลาอื่นของวัน


อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตทุกชนิดสามารถเพิ่มระดับน้ำตาลได้เท่ากัน ไม่ว่าจะกินเวลาไหนก็ตาม ปัจจัยสำคัญคือ ปริมาณรวม และ ชนิดของผลไม้ ที่รับประทาน

สรุป: ควรกินผลไม้ตอนไหนดีที่สุด?

คำตอบที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการคือ “กินได้ทุกเวลา” ผลไม้เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพและให้สารอาหารหลากหลาย หากคุณเป็นเบาหวานหรือมีภาวะน้ำตาลสูง ควรพิจารณากินผลไม้พร้อมมื้ออาหารที่มีโปรตีนและไขมันเพื่อชะลอการดูดซึมน้ำตาล แต่สำหรับคนทั่วไป สามารถกินเป็นของว่าง ก่อน หรือหลังอาหารได้ตามความสะดวก


ข้อแนะนำในการเลือกผลไม้

เลือกชนิดผลไม้ ควรเลือกผลไม้ที่มีน้ำตาลต่ำ เช่น ฝรั่ง แอปเปิ้ล เบอร์รี หรือกีวี


หลีกเลี่ยงผลไม้รสจัด ควรจำกัดปริมาณผลไม้รสหวานจัด เช่น ทุเรียน ลำไย ขนุน หรือมะม่วงสุก โดยเฉพาะก่อนนอน

รูปแบบการบริโภค ควรกินผลไม้สดแทนผลไม้แปรรูป หรือน้ำผลไม้กล่อง เพื่อควบคุมปริมาณน้ำตาลส่วนเกิน                                                

สรุปคือ ไม่จำเป็นต้องเคร่งครัดเรื่องเวลากินผลไม้ การกินผลไม้ไม่ว่าจะเวลาใด ล้วนมีประโยชน์ หากรับประทานในปริมาณที่พอดี เลือกผลไม้ที่เหมาะกับสุขภาพของตนเอง และรักษาสมดุลของอาหารในแต่ละวันให้ครบถ้วน

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่