ข่าว 19/10/2025 09:22

แม่ตกใจ! เห็นท้องลูกสาว ม.3 โตขึ้นทุกวัน รีบพาไปหาหมอ ถึงช็อกเมื่อหมอบอก 5 คำ

ช่วงมัธยมต้นเป็นวัยแห่งการเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและจิตใจของเด็ก แต่หลายครั้งพ่อแม่มักให้ความสำคัญกับผลการเรียนมากกว่าสุขภาพ จนละเลยสัญญาณเล็ก ๆ จากร่างกายของลูกโดยไม่รู้ตัว

ไม่นานมานี้ มีเหตุการณ์หนึ่งในประเทศจีนที่ทำให้ผู้ปกครองหลายคนต้องฉุกคิด เมื่อคุณแม่รายหนึ่งพบว่าท้องของลูกสาว ม.3 ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เธอคิดว่าเป็นเพราะลูกกินเยอะหรือน้ำหนักขึ้นตามวัย แต่เมื่อไปหาหมอ กลับได้รับคำตอบที่ทำให้ถึงกับช็อก!
Thấy bụng của con gái lớp 9 ngày càng to, mẹ vội vàng đưa đi khám thì chết sững khi bác sĩ nói 5 từ- Ảnh 1.

👩‍👧 เด็กหญิงวัย 15 ปี ท้องโตผิดปกติ หมอเผยสาเหตุ “มีก้อนเนื้อในช่องท้อง”

“เสี่ยวเหวิน” เด็กหญิงวัย 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 เป็นเด็กเรียบร้อย ขยันเรียน และไม่ค่อยพูดมาก คุณแม่ของเธอเล่าว่าเมื่อช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว เริ่มสังเกตว่าท้องของลูกสาวโตขึ้นผิดปกติ แต่เพราะลูกใส่ชุดนักเรียนหลวม ๆ และกำลังยุ่งกับการเรียน จึงคิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่

คุณแม่กล่าวว่า “ตอนนั้นคิดว่าลูกแค่กำลังโตหรืออ้วนขึ้นนิดหน่อย ไม่อยากไปกังวลให้ลูกเครียด เพราะช่วงนั้นสอบเยอะมาก”

แต่เมื่อเวลาผ่านไป ท้องของเสี่ยวเหวินกลับโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เธอเริ่มบ่นว่าแน่นท้อง กินข้าวไม่ลง และบางครั้งถึงกับอาเจียน พอถึงช่วงปิดเทอมฤดูหนาว คุณแม่จึงพาไปหาหมอ

หลังการตรวจ หมอออกมาพร้อมใบหน้าที่เคร่งเครียด และพูดเพียง 5 คำว่า

“มีก้อนเนื้อในช่องท้อง”

Thấy bụng của con gái lớp 9 ngày càng to, mẹ vội vàng đưa đi khám thì chết sững khi bác sĩ nói 5 từ- Ảnh 2.
ผลตรวจพบว่า เสี่ยวเหวินมี ถุงน้ำรังไข่ชนิดเนื้องอกปนเปื้อน (Dermoid cyst) ซึ่งเป็นเนื้องอกที่พบได้ในเด็กหญิงวัยรุ่น แม้ส่วนใหญ่เป็นชนิดไม่ร้ายแรง แต่หากปล่อยให้โตหรือบิดตัว อาจอันตรายถึงชีวิต

คุณแม่ถึงกับทรุดลงทันทีเมื่อได้ยินคำวินิจฉัยนี้

⚠️ ท้องโตผิดปกติในวัยรุ่นหญิง – 4 สาเหตุที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม

กรณีของเสี่ยวเหวินไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นรายเดียว แพทย์เตือนว่าหากเด็กวัยรุ่น โดยเฉพาะเด็กหญิง มีอาการท้องโตอย่างผิดปกติ ไม่ควรคิดว่าเป็นเพียง “อ้วนขึ้น” เพราะอาจมีสาเหตุทางการแพทย์ที่ซ่อนอยู่ เช่น

1️⃣ ก้อนเนื้อในช่องท้อง

ถุงน้ำรังไข่หรือมะเร็งไตบางชนิดสามารถทำให้ท้องโตโดยไม่มีอาการเจ็บชัดเจน ช่วงแรกมักไม่สังเกตเห็น จนกว่าจะเริ่มปวดท้องหรือแน่นท้อง

2️⃣ ภาวะน้ำในช่องท้อง (Ascites)

เกิดจากโรคตับ ไต หรือหัวใจ ทำให้มีของเหลวสะสมในช่องท้อง เด็กจะมีอาการท้องโต น้ำหนักเพิ่ม หายใจลำบาก หรือเท้าบวม

3️⃣ โรคระบบทางเดินอาหาร

เช่น ลำไส้อักเสบ หรือลำไส้ตีบ ทำให้ท้องพองโตและมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย หากลูกมีอาการปวดท้องหรือระบบขับถ่ายเปลี่ยนไป ควรรีบพบแพทย์

4️⃣ ความผิดปกติของฮอร์โมน

วัยรุ่นหญิงมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนมาก อาจเกิดภาวะ รังไข่มีถุงน้ำหลายใบ (PCOS) หรือ โรคคุชชิง (Cushing Syndrome) ซึ่งทำให้มีไขมันสะสมบริเวณท้องมากผิดปกติ
Thấy bụng của con gái lớp 9 ngày càng to, mẹ vội vàng đưa đi khám thì chết sững khi bác sĩ nói 5 từ- Ảnh 4.

💬 คุณหมอเตือน: “สังเกตลูกให้ดี อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล็ก”

หมอย้ำว่า พ่อแม่ไม่จำเป็นต้องเป็นหมอ แต่ต้องเป็น “นักสังเกตที่ดี” หากเห็นลูกมีการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เช่น ท้องโตเร็ว เหนื่อยง่าย เบื่ออาหาร หรืออารมณ์แปรปรวน ควรรีบพาไปตรวจเพื่อความปลอดภัย

❤️ สร้าง ‘สะพานใจ’ ระหว่างพ่อแม่และลูกในวัยเปลี่ยนผ่าน

คุณแม่ของเสี่ยวเหวินเล่าว่า หลังเหตุการณ์นี้ สิ่งที่เสียใจที่สุดคือไม่ได้พูดคุยกับลูกมากพอ “เราคุยกันแต่เรื่องเรียน ไม่เคยถามเลยว่าลูกสบายดีไหม หรือมีอะไรอยากบอกไหม”

วัยรุ่นคือช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง ทั้งร่างกายและอารมณ์ พ่อแม่ควรเป็นทั้งที่พึ่งและเพื่อนคู่ใจของลูก การพูดคุยอย่างเปิดใจเป็น “สะพาน” ที่จะเชื่อมความเข้าใจระหว่างสองรุ่น

บางครั้งคำถามง่าย ๆ อย่าง

“ลูกสบายดีกับร่างกายของตัวเองไหม?”
อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการช่วยชีวิตก็ได้

Thấy bụng của con gái lớp 9 ngày càng to, mẹ vội vàng đưa đi khám thì chết sững khi bác sĩ nói 5 từ- Ảnh 5.
🌷 บทสรุป

เรื่องราวของเสี่ยวเหวินคือคำเตือนสำหรับทุกครอบครัว อย่ามองข้ามสัญญาณเล็ก ๆ จากร่างกายลูก เพราะเบื้องหลังอาจเป็นปัญหาสุขภาพร้ายแรง การสังเกต รับฟัง และสื่อสารคือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ลูกเติบโตอย่างแข็งแรงและมีความสุขในวัยที่เปลี่ยนแปลงที่สุดของชีวิต

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่