สุขภาพ 19/10/2025 22:01

การวิจัยใหม่ค้นพบแนวทางรักษาม.ะเ.ร็.งระยะสุดท้าย เปิดความหวังให้ผู้ป่วยจำนวนมาก

การวิจัยใหม่ค้นพบแนวทางรักษาม.ะเ.ร็.งระยะสุดท้าย เปิดความหวังให้ผู้ป่วยจำนวนมาก
เมื่อพูดถึง “มะเร็งระยะสุดท้าย” หลายคนมักนึกถึงความตายที่ใกล้เข้ามา แต่การค้นพบใหม่นี้ได้เปิดประตูแห่งความหวังให้กับผู้ป่วยทั่วโลก

ก้าวสำคัญแห่งยุคใหม่ของการรักษา


Nghiên cứu mới mở ra hy vọng cho nhiều bệnh nhân


มะเร็งระยะสุดท้ายถือเป็นความท้าทายใหญ่ที่สุดในวงการแพทย์ เนื่องจากมีความดื้อต่อยาและการเจริญเติบโตที่รวดเร็วเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Molecular Cancer Therapeutics ล่าสุด ได้เผยแนวทางการรักษาที่มีศักยภาพสูงสำหรับโรคร้ายนี้

ทีมนักวิทยาศาสตร์จากสหรัฐฯ พบว่า สาเหตุที่มะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งปอด ตับอ่อน และต่อมลูกหมาก ยากต่อการรักษา เกิดจากการปรากฏของโปรตีนชนิดหนึ่งชื่อว่า integrin αvβ3 ซึ่งไม่มีอยู่ในเซลล์ปกติ แต่กลับพบในระดับสูงในเซลล์มะเร็งชนิดร้ายแรง โดยโปรตีนนี้มีบทบาทสำคัญในการดื้อต่อยาและการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง


จุดเปลี่ยนสำคัญ: การใช้ “พิษสู้พิษ” ด้วยภูมิคุ้มกันของร่างกายเอง

ในอดีต มีหลายการทดลองที่พยายามกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันกำจัดเซลล์มะเร็งโดยใช้เซลล์นักฆ่าธรรมชาติ (Natural Killer Cells) แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามคาด เนื่องจากในก้อนเนื้อมะเร็งมักมีเซลล์นักฆ่าในปริมาณน้อยเกินไป

ล่าสุด นักวิทยาศาสตร์จาก คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานดิเอโก (UCSD) ได้พัฒนาแนวทางใหม่ โดยหันมาใช้ “มาโครฟาจ” (Macrophage) ซึ่งเป็นเซลล์ภูมิคุ้มกันที่มีอยู่แล้วในปริมาณมากภายในก้อนเนื้อมะเร็งระยะสุดท้าย


แอนติบอดีชนิดใหม่ กระตุ้นมาโครฟาจให้กำจัดเซลล์มะเร็ง

นักวิจัยได้สร้างแอนติบอดีใหม่ที่สามารถกระตุ้นให้มาโครฟาจ “ปลุกพลัง” ภูมิคุ้มกันของตนเองและโจมตีเซลล์มะเร็งโดยตรง ทำให้ก้อนเนื้อมะเร็งหดตัวและตายในที่สุด ผลลัพธ์นี้ได้รับการพิสูจน์แล้วทั้งในตัวอย่างเนื้อเยื่อผู้ป่วยและการทดลองในสัตว์

ตามรายงานของ News Medical แอนติบอดีใหม่นี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มอัตราการทำลายเซลล์มะเร็ง แต่ยังชะลอการเติบโตของก้อนเนื้อมะเร็งได้อย่างมีนัยสำคัญเหนือกว่าวิธีการรักษาแบบเดิม


กลไกการทำงานและความปลอดภัยสูง

ผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า แอนติบอดีดังกล่าวทำงานโดย “ตั้งโปรแกรมใหม่” ให้มาโครฟาจผลิตเอนไซม์ nitric oxide synthase (iNOS) ซึ่งช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำลายเซลล์มะเร็งได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

สิ่งที่โดดเด่นคือ กลไกนี้อาศัยเพียงมาโครฟาจโดยไม่ต้องพึ่งเซลล์นักฆ่าเหมือนวิธีเก่า อีกทั้งยังมีความปลอดภัยสูง เนื่องจากโปรตีน integrin αvβ3 ปรากฏเฉพาะในเซลล์มะเร็ง ไม่พบในเซลล์ปกติ จึงลดผลข้างเคียงต่อเนื้อเยื่อที่ดี


ทีมนักวิจัยเชื่อว่า วิธีการใหม่นี้จะช่วยเพิ่มโอกาสการมีชีวิตรอดให้กับผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย และอาจนำไปใช้ได้กับมะเร็งชนิดดื้อตัวยาอื่น ๆ อีกหลายประเภท ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ “ยุคใหม่แห่งการรักษามะเร็ง” ที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายกลายเป็นอาวุธหลักในการต่อสู้กับเซลล์ร้าย

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการวิจัย และต้องใช้เวลาเพิ่มเติมก่อนที่จะสามารถนำมาใช้รักษาในทางการแพทย์ได้จริง

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่