สุขภาพ 19/10/2025 22:16

4 เครื่องเทศที่เป็น “ยาวิเศษ” ต้านการอักเสบ ป้องกันมะเร็ง: คนไทยใช้มาหลายชั่วอายุครัวเรือ

4 loại gia vị là "thần dược" chống viêm, phòng ung thư: Người Việt dùng từ bao đời, bếp lúc nào cũng sẵn- Ảnh 3.



4 เครื่องเทศที่เป็น “ยาวิเศษ” ต้านการอักเสบ ป้องกันมะเร็ง: คนไทยใช้มาหลายชั่วอายุครัวเรือน มีติดครัวแทบทุกบ้าน

เครื่องเทศทั้ง 4 ชนิดนี้แทบจะมีอยู่ในทุกครัวของคนไทย แต่ไม่ใช่ทุกคนจะรู้ว่าพวกมันดีต่อสุขภาพมากเพียงใด!

คำกล่าวที่ว่า “ห้องครัวมาก่อน ตู้ยาอยู่ทีหลัง” ไม่ได้หมายถึงเพียงการกินอาหารที่สมดุลเพื่อป้องกันโรคเท่านั้น แต่ยังเป็นความจริงที่ว่า เครื่องปรุงรสหลายชนิดนอกจากจะช่วยให้อาหารอร่อยขึ้นแล้ว ยังเป็นสมุนไพรล้ำค่าที่ช่วยรักษาและป้องกันโรคได้อีกด้วย

คุณอาจต้องแปลกใจเมื่อรู้ว่า เครื่องเทศพื้นบ้าน 4 ชนิดที่มีอยู่แทบทุกครัวของไทยนั้น มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ป้องกันมะเร็ง และส่งเสริมสุขภาพอย่างน่าทึ่ง ไม่เพียงแต่ชาวไทยเท่านั้นที่นิยมใช้ แต่ยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนใน “เขตสีเขียว” หรือพื้นที่ที่มีผู้คนอายุยืนยาวที่สุดในโลกอีกด้วย เครื่องเทศราคาถูกแต่คุณค่ามหาศาลทั้ง 4 ชนิดนี้ ได้แก่:


1. ขมิ้น

ขมิ้นชันมีสารสำคัญชื่อว่า เคอร์คูมินอยด์ (Curcuminoid) ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบและต่อต้านอนุมูลอิสระที่ทำลายเซลล์และเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็ง งานวิจัยหลายชิ้นระบุว่า เคอร์คูมิน (Curcumin) ช่วยลดการอักเสบเรื้อรัง ปรับปรุงการทำงานของสมอง และลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ

นอกจากนี้ วารสาร Journal of Geriatric Psychology ของสหรัฐฯ ยังรายงานว่า เคอร์คูมินช่วยเพิ่มความจำของผู้สูงอายุได้ถึง 28% ขมิ้นยังดีต่อระบบย่อยอาหาร ผิวพรรณ และตับ

วิธีใช้: ใช้ขมิ้นสดหรือผงขมิ้นปรุงอาหารร่วมกับน้ำมัน เช่น ผัดกับปลา หรือไก่ เพื่อเพิ่มการดูดซึมเคอร์คูมิน ดื่มขมิ้นผสมน้ำผึ้งสัปดาห์ละสองสามครั้งก็ให้ผลดีเช่นกัน


2. พริกไทยดำ

พริกไทยดำได้รับการขนานนามว่าเป็น “ราชาแห่งเครื่องเทศ” เพราะมีสาร ไพเพอรีน (Piperine) ที่ช่วยต้านการอักเสบและต่อต้านอนุมูลอิสระอย่างมีประสิทธิภาพ สารนี้ช่วยยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็ง ลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี และเพิ่มการทำงานของเอนไซม์ในตับ

นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยพบว่า พริกไทยดำช่วยเพิ่มสมาธิ ความจำ และส่งเสริมการดูดซึมสารอาหารอื่น ๆ โดยเฉพาะ เคอร์คูมิน ในขมิ้น

วิธีใช้: ควรใช้พริกไทยดำบดใหม่ ๆ โรยหลังอาหารสุกเพื่อคงคุณค่าทางสารอาหาร และหากใช้ร่วมกับขมิ้นจะช่วยเสริมฤทธิ์ต้านการอักเสบได้เป็นสองเท่า


3. ขิง

ขิงมีสารธรรมชาติมากกว่า 400 ชนิด โดยเฉพาะ จินเจอรอล (Gingerol) และ โชกาออล (Shogaol) ที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็ง งานวิจัยในวารสาร Cancer Prevention Research พบว่าสารสกัดจากขิงช่วยลดอาการอักเสบในลำไส้ใหญ่ ซึ่งช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ได้

นอกจากนี้ ขิงยังช่วยย่อยอาหาร บรรเทาอาการคลื่นไส้ และดีต่อหัวใจอีกด้วย

วิธีใช้: ใช้ขิงสดดีที่สุด เพราะยังคงมีน้ำมันหอมระเหยตามธรรมชาติ สามารถใส่ในอาหารประเภทต้ม เคี่ยว หรือทำชาขิงผสมน้ำผึ้งได้ แต่ไม่ควรกินขิงมากเกินไปขณะท้องว่าง เพราะอาจระคายกระเพาะ


4. กระเทียม

กระเทียมถือเป็น “ยาปฏิชีวนะธรรมชาติ” ที่มีสาร อัลลิซิน (Allicin) ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัส งานวิจัยจากสถาบันโภชนาการและอาหารแห่งสหรัฐฯ ระบุว่า กระเทียมช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งกระเพาะอาหารและลำไส้ใหญ่ โดยยับยั้งการเกิดสารไนโตรซามีน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร

กระเทียมยังช่วยลดความดันโลหิต ปรับการไหลเวียนเลือด และเสริมภูมิคุ้มกัน งานวิจัยอีกชิ้นพบว่า การรับประทานสารสกัดกระเทียมวันละ 600–1,500 มิลลิกรัม เป็นเวลา 6 เดือน ให้ผลเทียบเท่ากับยาลดความดันโลหิตบางชนิด

วิธีใช้: ควรทุบกระเทียมแล้วพักไว้ประมาณ 10 นาทีก่อนปรุง เพื่อให้สารอัลลิซินเกิดขึ้นเต็มที่ หลีกเลี่ยงการทอดจนไหม้ เพราะจะทำให้สูญเสียฤทธิ์ต้านการอักเสบ

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่