สุขภาพ 19/10/2025 17:12

5 วิธีใช้ ‘น้ำปลา’ ผิด ๆ ที่กลายเป็นพิ.ษต่อร่างกาย ทำร้ายทั้งตั.บและไ.ตโดยไม่รู้ตัว

น้ำปลาเป็นเครื่องปรุงรสคู่ครัวไทยที่อยู่ในทุกบ้าน ไม่ว่าจะผัด แกง หรือต้ม ล้วนมีน้ำปลาเป็นส่วนประกอบสำคัญ เรียกได้ว่า “ไม่มีน้ำปลา ก็ไม่ใช่อาหารไทย” เพราะน้ำปลาช่วยเพิ่มรสชาติให้อาหารกลมกล่อม เค็มนุ่มและหอมเฉพาะตัว

อย่างไรก็ตาม หลายคนไม่รู้ว่า การใช้น้ำปลาในบางลักษณะหรือในปริมาณมากเกินไป อาจทำให้ร่างกายได้รับสารโซเดียมมากเกินจำเป็น จนกลายเป็นพิษต่อ ตับและไต ในระยะยาว แถมยังเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงและหัวใจอีกด้วย

มาดูกันว่า “5 วิธีใช้ผิด ๆ ของน้ำปลา” ที่หลายคนทำกันจนเคยชิน มีอะไรบ้าง — และเราควรปรับอย่างไรให้ปลอดภัยต่อสุขภาพ

🧂 1. ใส่น้ำปลาเยอะเกินไปในทุกเมนู

คนไทยส่วนใหญ่มักติดรสเค็ม โดยเฉพาะในอาหารผัดหรือแกง บางบ้านใส่น้ำปลามากกว่าที่ควร เพราะคิดว่า “จะได้อร่อย” แต่ในความจริง น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะมีโซเดียมสูงถึงกว่า 1,000 มิลลิกรัม ซึ่งคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของปริมาณโซเดียมที่ร่างกายควรได้รับใน 1 วัน!

ผลเสีย: หากกินน้ำปลาเกินขนาดเป็นประจำ จะทำให้ไตทำงานหนักในการขับโซเดียมส่วนเกิน เสี่ยงต่อภาวะไตเสื่อมและความดันโลหิตสูง
5 kiểu dùng nước mắm sinh độc, hại gan thận

🍜 2. เติมน้ำปลาในอาหารขณะร้อนจัด

หลายคนชอบเติมน้ำปลาในขณะอาหารยังเดือด เพื่อให้กลิ่นหอม แต่ความร้อนสูงจะทำให้สารประกอบในน้ำปลาเกิดการเปลี่ยนแปลง บางส่วนอาจสลายกลายเป็นสารที่ก่อให้เกิดพิษ หรือสูญเสียคุณค่าทางอาหารไป

คำแนะนำ: ควรเติมน้ำปลาหลังจากยกอาหารลงจากเตา หรือปรุงรสตอนอุณหภูมิลดลงแล้ว

🧴 3. ใช้น้ำปลาที่เก็บไว้นานหรือเปิดฝาทิ้งไว้

น้ำปลาที่เปิดฝาไว้นาน หรือเก็บในที่ร้อนชื้น จะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ทำให้กลิ่นและรสเปลี่ยน บางครั้งอาจเกิดเชื้อราและแบคทีเรียเจริญเติบโต ซึ่งอาจก่อให้เกิดสารพิษต่อร่างกายโดยไม่รู้ตัว

คำแนะนำ: ควรเก็บน้ำปลาในขวดที่ปิดสนิท และเก็บในที่แห้งเย็น หลีกเลี่ยงการวางใกล้เตาแก๊สหรือแสงแดดโดยตรง

🧫 4. ใช้น้ำปลาปลอม หรือน้ำปลาผสมสารเคมี

ปัจจุบันมีน้ำปลาราคาถูกจำนวนมากที่ผลิตโดยใช้ “สารเคมีแทนการหมักปลาแท้” เพื่อเร่งกระบวนการผลิต น้ำปลาพวกนี้มักมีโซเดียมคลอไรด์สูง และอาจปนเปื้อนสารกันบูดหรือสีสังเคราะห์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อทั้งตับและไต

คำแนะนำ: เลือกซื้อน้ำปลาจากแบรนด์ที่มีมาตรฐาน ระบุชัดว่าเป็นน้ำปลาหมักธรรมชาติ 100%

🥗 5. ใช้น้ำปลาแทนเกลือในทุกกรณี

หลายคนคิดว่าการใช้น้ำปลาแทนเกลือจะดีต่อสุขภาพกว่า แต่ในความจริง ทั้งเกลือและน้ำปลาต่างก็มีโซเดียมในปริมาณสูง หากใช้มากเกินไปก็ให้ผลเสียไม่ต่างกันเลย

คำแนะนำ: หากต้องการลดเค็ม ควรใช้น้ำปลาเพียงเล็กน้อยแล้วเพิ่มรสชาติด้วยสมุนไพร เช่น มะนาว พริก หรือกระเทียมแทน

⚕️ สรุป

น้ำปลาไม่ใช่ของอันตราย แต่ “การใช้ผิดวิธี” ต่างหากที่เป็นภัยเงียบต่อสุขภาพในระยะยาว เพราะตับและไตต้องทำงานหนักเพื่อขับสารส่วนเกินจากร่างกาย หากใช้น้ำปลาอย่างถูกต้องในปริมาณที่เหมาะสม อาหารก็จะอร่อยและปลอดภัยได้เช่นกัน

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่