
ทำไมไม่ควรใช้หม้ออะลูมิเนียมที่ใช้นานเกินไปในการทำอาหาร?
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าไม่ควรใช้หม้ออะลูมิเนียมที่ใช้งานมานาน โดยเฉพาะเมื่อใช้ปรุงอาหารที่มีรสเปรี้ยว แล้วทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?
ในอดีต หม้ออะลูมิเนียมเคยเป็นเครื่องครัวที่พบได้ในเกือบทุกครัวเรือน เพราะมีราคาถูก นำความร้อนได้ดี และใช้งานสะดวก แม้ปัจจุบันยังมีคนจำนวนมากนิยมใช้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้ว่า การใช้หม้ออะลูมิเนียมเก่าที่มีรอยขีดข่วน ผิวลอก หรือเกิดการกัดกร่อนนั้น อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้
เหตุผลที่ไม่ควรใช้หม้ออะลูมิเนียมที่ใช้นานเกินไปในการทำอาหาร
ตามการศึกษาของผู้เชี่ยวชาญ การใช้หม้ออะลูมิเนียมในการปรุงอาหารถือว่าไม่ถูกหลักวิทยาศาสตร์ เนื่องจากอะลูมิเนียมเป็นโลหะที่มีปฏิกิริยาเคมีสูง โดยเฉพาะเมื่อได้รับความร้อนและสัมผัสกับอาหารที่มีความเป็นกรดหรือด่าง เช่น อาหารรสเปรี้ยวหรือเค็ม จะเกิดปฏิกิริยาเคมีทำให้เกิดสารประกอบอะลูมิเนียม สารนี้สามารถละลายเข้าสู่อาหาร และเมื่อร่างกายรับประทานเข้าไป อะลูมิเนียมจะสะสมอยู่ในตับ ม้าม ไต และสมอง
หม้ออะลูมิเนียมเก่าอาจปล่อยโลหะปนเปื้อนสู่อาหารได้ง่าย
อะลูมิเนียมเป็นโลหะที่มีน้ำหนักเบา นำความร้อนได้ดีและขึ้นรูปได้ง่าย จึงถูกนำมาใช้ทำหม้อ กระทะ และภาชนะต่าง ๆ มายาวนาน อย่างไรก็ตาม อะลูมิเนียมไม่ใช่โลหะเฉื่อย หมายความว่ามันสามารถเกิดการกัดกร่อนและทำปฏิกิริยาทางเคมีกับอาหารได้ โดยเฉพาะอาหารที่มีความเป็นกรด เช่น แกงส้ม มะเขือเทศ ผักดอง น้ำปลา หรือน้ำมะนาว
เมื่อหม้ออะลูมิเนียมเก่ามีรอยขีดข่วน หรือชั้นออกไซด์ที่ป้องกันพื้นผิวถูกสึกหรอ ไอออนของอะลูมิเนียมอาจละลายเข้าสู่อาหารระหว่างการปรุง การบริโภคอาหารที่มีอะลูมิเนียมปนเปื้อนในระยะยาว อาจเกี่ยวข้องกับปัญหาสุขภาพหลายประการ เช่น ความผิดปกติของระบบย่อยอาหาร ความเสียหายของระบบประสาท และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอัลไซเมอร์
ผลกระทบต่อระบบประสาทและความจำ
งานวิจัยทางการแพทย์หลายชิ้นได้ชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างการสะสมของอะลูมิเนียมในร่างกายกับความเสี่ยงในการสูญเสียความจำและภาวะสมองเสื่อม แม้ว่ายังมีการถกเถียงในวงการวิทยาศาสตร์ แต่หน่วยงานด้านสาธารณสุขส่วนใหญ่ก็ยังแนะนำให้ลดการรับอะลูมิเนียมจากอาหารให้มากที่สุด
องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำว่าปริมาณอะลูมิเนียมที่ร่างกายควรได้รับต่อสัปดาห์ไม่ควรเกิน 2 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ขณะที่ผลการวิจัยในเอเชียบางฉบับพบว่า อาหารที่ปรุงด้วยหม้ออะลูมิเนียมเก่าสามารถมีปริมาณอะลูมิเนียมตั้งแต่ 5–15 มิลลิกรัม ขึ้นอยู่กับชนิดของอาหารและระดับความสึกหรอของหม้อ
หากใช้หม้ออะลูมิเนียมเก่าเป็นเวลานาน อะลูมิเนียมจะสะสมในร่างกายและส่งผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง โดยเฉพาะในผู้สูงอายุและเด็ก ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีระบบประสาทอ่อนไหวและไวต่อโลหะหนัก
เกิดปฏิกิริยาง่ายกับอาหารที่มีกรดหรือด่าง
หนึ่งในข้อเสียสำคัญของหม้ออะลูมิเนียมคือความสามารถในการเกิดปฏิกิริยาทางเคมีกับอาหารที่มีความเป็นกรด (เช่น น้ำส้มสายชู มะนาว มะเขือเทศ) หรือด่าง (เช่น เบกกิ้งโซดา หรือผักบางชนิดที่มีความเป็นด่างอ่อน ๆ) เมื่อปรุงอาหารประเภทนี้ อะลูมิเนียมในหม้ออาจละลายเข้าสู่อาหาร ทำให้เกิดการปนเปื้อนของโลหะในอาหาร
ผลที่ตามมานอกจากจะทำให้รสชาติของอาหารเปลี่ยนไปแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดอาการไม่สบายท้อง คลื่นไส้ หรือแม้กระทั่งภาวะเป็นพิษเล็กน้อย หากปริมาณอะลูมิเนียมในอาหารสูงเกินระดับที่ปลอดภัย
หม้ออะลูมิเนียมเก่าง่ายต่อการกัดกร่อน ลอกล่อน และบิดงอ
เมื่อใช้หม้ออะลูมิเนียมเป็นเวลานาน โดยเฉพาะเมื่อโดนความร้อนสูงบ่อยครั้ง หม้อจะเริ่มมีสัญญาณเสื่อมสภาพ เช่น ด้านในหม้อมีคราบดำ ผิวหม้อลอกออก มีรอยนูนหรือบุบ ทำให้การกระจายความร้อนไม่สม่ำเสมอ หม้อที่อยู่ในสภาพเช่นนี้ไม่เพียงแต่ทำให้อาหารสุกไม่ทั่วเท่านั้น แต่ยังเพิ่มโอกาสให้เกิดปฏิกิริยาเคมีที่ทำให้โลหะอะลูมิเนียมละลายปนเปื้อนในอาหารได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ อะลูมิเนียมยังไวต่อการกัดกร่อนจากเกลือ ดังนั้น หากมักใช้หม้ออะลูมิเนียมเก่าในการต้มซุป เคี่ยวเนื้อ หรือน้ำซุปที่ใส่เกลือหรือเครื่องปรุงตั้งแต่ต้น โอกาสที่ร่างกายจะได้รับอะลูมิเนียมก็จะยิ่งสูงขึ้นไปอีก
ไม่ปลอดภัยเมื่อใช้ปรุงอาหารที่ต้องใช้เวลาต้มหรือตุ๋นนาน
สิ่งที่ควรสังเกตคือ ยิ่งเวลาปรุงอาหารนานเท่าไร ปริมาณอะลูมิเนียมที่ละลายออกจากหม้อเข้าสู่อาหารก็จะยิ่งมากขึ้น ดังนั้น หม้ออะลูมิเนียมจึงไม่เหมาะสำหรับการทำอาหารที่ต้องใช้เวลาเคี่ยวนาน เช่น ต้มกระดูก ทำโจ๊ก ตุ๋นน้ำซุป หรือแกงที่ต้องใช้เวลาเคี่ยวนาน
การอุ่นอาหารซ้ำ ๆ ในหม้ออะลูมิเนียมเก่าก็เป็นพฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยงเช่นกัน เพราะการให้ความร้อนหลายครั้งจะทำให้รอยขีดข่วนในหม้อเกิดการออกซิไดซ์มากขึ้น ส่งผลให้ไอออนอะลูมิเนียมถูกปล่อยออกมามากกว่าเดิม
เด็กและผู้สูงอายุเป็นกลุ่มที่ไวต่อโลหะหนักและสารพิษตกค้างเป็นพิเศษ ระบบภูมิคุ้มกันและการขับพิษของเด็กยังไม่สมบูรณ์ ในขณะที่ผู้สูงอายุก็มีแนวโน้มที่จะเกิดความเสียหายของระบบประสาทได้ง่าย การปรุงอาหารหรือโจ๊กสำหรับเด็กด้วยหม้ออะลูมิเนียมเก่า อาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทางสมองและร่างกาย ส่วนในผู้สูงอายุ การใช้หม้ออะลูมิเนียมที่สึกกร่อนอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อม ปวดหัวเรื้อรัง หรือการรับรู้ลดลง
ควรเปลี่ยนมาใช้หม้อที่ปลอดภัยมากกว่า
ในปัจจุบันมีหม้อหลายประเภทที่ปลอดภัยกว่าเมื่อเทียบกับหม้ออะลูมิเนียมแบบดั้งเดิม เช่น
- 
หม้อสแตนเลส 304 (เกรดพรีเมียม): ไม่ทำปฏิกิริยากับอาหาร ทนทาน และมีอายุการใช้งานยาวนาน 
- 
หม้อเหล็กเคลือบอีนาเมล: เก็บความร้อนได้ดี เหมาะสำหรับการตุ๋นหรือเคี่ยวอาหาร 
- 
หม้อเซรามิกหรือแก้วทนความร้อน: ไม่เกิดปฏิกิริยากับกรดหรือด่าง ปลอดภัยอย่างยิ่งเมื่อใช้ปรุงโจ๊กหรือซุป 
- 
หม้อเคลือบกันติดคุณภาพสูงที่ได้รับการรับรองความปลอดภัย: ทำความสะอาดง่าย และไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมันมาก 
แม้ว่าราคาของหม้อประเภทนี้อาจสูงกว่าหม้ออะลูมิเนียมทั่วไป แต่ก็ช่วยปกป้องสุขภาพในระยะยาวได้ดีกว่า โดยเฉพาะในยุคที่ผู้คนให้ความสำคัญกับอาหารปลอดภัยและสุขอนามัยในครัว
บทความในหมวดเดียวกัน


กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ8 เตือน อากาศแปรปรวน จังหวัดไหนโดนฝนหนัก

สาวสุดช้ำ พ่อค้าไก่ต้มน้ำปลาหลอกคบ 3 ปี สูญเงินกว่า 30 ล้าน สักพักฐานะเริ่มสวนทางกัน

ติ๊กต็อกเกอร์สาว ถูก.บัง.คับย้ายออก หลังห้องกลายเป็นรังแมลงสาบ สภาพสุดช็อก

รร.สร้างห้องใหม่ดีไซน์สุดแปลก พ่อแม่ถามใครออกแบบ?

เอ็นดูเมื่อ "น้องเลอา" บอกแม่ "ไอซ์ อภิษฎา" ว่าอยากเป็นชาวนา ฝรั่งน้อยน่ารักสุดๆ

จำแทบไม่ได้ "แก้ว อภิรดี" ลงภาพช็อตเดียว ทำหลายคนขยี้ตารัวๆ เลย

4 สิ่งที่ไม่ควรเก็บไว้ในครัว – นึกว่าไม่อัน.ตร.าย แต่อาจเสี่.ยงได้โดยไม่รู้ตัว

ราคาทองวันนี้ 30 ต.ค.68 ประกาศครั้งที่ 33 ผันผวนขึ้น-ลงไม่หยุด จับตาสถานการณ์ราคา

เช็กข่าวชัวร์ : ผู้สูงอายุลงทะเบียนรับ 'เงินอุดหนุนพิเศษ' เพิ่มจากเบี้ยคนชรา ได้จริงหรือ?

เปิด 3 ช่องทาง ค้นหาร้านค้าร่วม "คนละครึ่งพลัส" มีที่ไหนบ้าง

เตือน! ร้านค้า-ผู้ได้รับสิทธิ คนละครึ่งพลัส ห้ามซื้อสินค้าอะไรบ้าง โทษหนักทั้งจำ-ปรับ

"ฝน ธนสุนทร" แต่งงาน? ภาพหวานสวมชุดเจ้าสาว คนแห่คอมเมนต์ยินดี

สะเทือนใจ! นศ.สาวยืนยัน “เกิดในบ้านรวย” บังคับพ่อแม่ยากจนตรวจ DNA ก่อนเจอความจริงสุดขม

ครั้งแรกของโลก! "ซาอุดีอาระเบีย" เล่นใหญ่ผุดแนวคิด "สนามกีฬาลอยฟ้า" จัดฟุตบอลโลก

คนละครึ่งพลัส ใช้สิทธิกับร้าน 7-11 เซเว่น อีเลฟเว่น ได้ไหม

7คนแล้วรางวัลที่1 พ่อแก่เงินล้าน สาวมองตาขอได้12ล้าน เจอผ่านแท็บเล็ต งวดนี้มีอึ้ง

ราคาทองวันนี้ 30 ต.ค.68 ประกาศครั้งแรก ร่วงแรงอีกแล้ว รีบตัดสินใจเลย... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่
บทความใหม่

รับความเฮงพฤศจิกายน หมอช้าง เปิด 5 อันดับราศีดวงดี ราศีไหนเบอร์หนึ่ง

ชายวัย 62 ปี ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ แพทย์ชี้ มาจาก 3 พฤติกรรมที่หลายคนมองข้าม

พี่ชายผู้ไม่ต้องพูดคำใด ก็ทำให้น้องสาวรู้ว่า “พี่จะอยู่ตรงนี้เสมอ”

ผักนักฆ่าน้ำตาล สมุนไพรไทย 1 ชนิดที่เบาหวานกลัว นักวิจัยญี่ปุ่นยกย่องสรรพคุณ

วันนี้เพิ่งรู้! อาหารและของใช้ 7 อย่างที่ “ไม่มีวันหมดอายุ”

กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ8 เตือน อากาศแปรปรวน จังหวัดไหนโดนฝนหนัก

สาวสุดช้ำ พ่อค้าไก่ต้มน้ำปลาหลอกคบ 3 ปี สูญเงินกว่า 30 ล้าน สักพักฐานะเริ่มสวนทางกัน

ใครเครียดลองเลย! รู้จักกับเพลง "Weightless" เพลงที่ถูกยกย่องว่า “ผ่อนคลายที่สุดในโลก”

ฝนตกบ่อย ผนังบ้านเพดานชื้น มีคราบน้ำรั่วซึม? รีบแก้แบบนี้ก่อนจะกลายเป็นเชื้อรา!

น้ำซาวข้าวอย่าเททิ้ง! เก็บไว้ใช้แบบนี้ ประหยัดเงินเป็นหมื่น แถมสวยตั้งแต่หัวจรดเท้า

4 สิ่งที่ไม่ควรเก็บไว้ในช่องแช่แข็ง “อันตรายกว่าที่คิด!”

บทเรียนครั้งใหญ่ คุณยายลมจับ ยายเก็บเงินไว้ในกล่องกระดาษ หวังไปทำบุญต่างประเทศ แต่เปิดก

ร่างกายมีอาการ 7 อย่างนี้ต่อเนื่อง — อาจเป็นสัญญาณของ “ม.ะเ.ร็.งร้าย” ควรรีบตรวจโดยเร็วที่ส

เคล็ดลับผู้รู้สมัยโบราณ: “มอง 5 สีบนใบหน้า” ก็สามารถทำนาย 5 โรคยอดนิยมได้

แม้จะเป็น “ผักโขม” เหมือนกัน แต่ “รากแดง” กับ “รากขาว” กลับแตกต่างกันมาก ควรรู้ไว้ก่อนซื้อ

ของใช้ในครัว 2 อย่างนี้ ทำร้ายร่างกายทุกวันแบบไม่รู้ตัว รีบเช็กก่อนสาย!

แซงหน้าเนื้อวัว! ผักพื้นบ้านที่คนไทยรู้จักดีนี่แหละคือ “ราชาแห่งธาตุเหล็ก” ช่วยลดความดั

ผู้หญิงวัย 73 ปีถูกลูกชายคนเล็กไล่ออกจากบ้าน หลังมอบเงินชดเชยที่ดินกว่า 3 ล้านบาท ให้ลูกชาย

100 แคปชั่นฮาโลวีน กวน ๆ ขำ ๆ รับวันปล่อยผี เหมาะกับคนไทย ใช้ได้ทุกโพสต์
