ความรัก 30/10/2025 22:04

ผู้หญิงวัย 73 ปีถูกลูกชายคนเล็กไล่ออกจากบ้าน หลังมอบเงินชดเชยที่ดินกว่า 3 ล้านบาท ให้ลูกชาย

73 tuổi bị con út đuổi ra khỏi nhà vì đưa hết tiền đền bù đất cho con cả: Làm mẹ xin đừng thiên vị! - Ảnh 3.



ผู้หญิงวัย 73 ปีถูกลูกชายคนเล็กไล่ออกจากบ้าน หลังมอบเงินชดเชยที่ดินกว่า 3 ล้านบาท ให้ลูกชายคนโต — "ในฐานะแม่ โปรดอย่าลำเอียง!"

ผมชื่อ กว็อก ขั่น อายุ 53 ปี ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ผมดูแลแม่ยายด้วยความรักเหมือนแม่แท้ๆ แต่สิ่งที่ทำให้ผมใจสลายคือ แม่กลับยกเงินชดเชยที่ดินทั้งหมดกว่า 3 ล้านบาทให้ลูกชายคนโต โดยไม่พูดกับพวกเราแม้แต่คำเดียว

เมื่อ 8 ปีก่อน แม่ยายของผมถูกลูกชายคนโตและภรรยาไม่ยอมให้พักอยู่ด้วย พวกเขารู้สึกรำคาญที่ต้องดูแลคนแก่ ผมสงสารแม่ยายมาก จึงรับเธอมาดูแลที่บ้านเราเอง ตลอดหลายปี ผมและภรรยาให้แม่กินอยู่สบาย ซื้อเสื้อผ้า พาเที่ยว ดูแลอย่างดี และไม่เคยให้แม่ต้องลำบาก


73 tuổi bị con út đuổi ra khỏi nhà vì đưa hết tiền đền bù đất cho con cả: Làm mẹ xin đừng thiên vị! - Ảnh 1.


จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้ว บ้านและที่ดินของแม่ยายในชานเมืองถูกเวนคืนจากโครงการพัฒนา และแม่ได้รับเงินชดเชยกว่า 3 ล้านบาท ตอนนั้นแม่บอกเพียงว่าจะนำเงินไปฝากธนาคาร แต่ไม่เคยพูดว่าจะจัดการอย่างไร

ผมคิดว่า แม่คงแบ่งบางส่วนให้ครอบครัวเรา เพราะเราดูแลแม่มาตลอด แต่สุดท้ายกลับรู้ว่าแม่ได้มอบเงินทั้งหมดให้ลูกชายคนโต ซึ่งถ้าเขาไม่พูดอวดคนอื่น เราคงไม่มีวันรู้

ผมถามแม่ด้วยความไม่พอใจว่า
"แม่ครับ ทำไมถึงไม่แบ่งให้ภรรยาผมบ้าง ภรรยาผมก็เป็นลูกของแม่เหมือนกัน แม่อยู่บ้านเรามาหลายปี แล้วทำไมถึงยกทั้งหมดให้พี่ชายเขา แบบนี้ยุติธรรมหรือเปล่า?"

แม่ตอบอย่างเย็นชา:
“ลูกสาวกับลูกเขยมีงานมั่นคง รายได้ดี และมีเงินบำนาญในอนาคต ส่วนพี่ชายของลูกไม่มีงานประจำ รายได้ขึ้นอยู่กับภรรยา แม่ไม่อยากเห็นเขาลำบากอีก และลูกสาวของแม่ก็แต่งงานออกไปแล้ว ไม่ใช่คนในบ้านนี้อีกต่อไป”

คำพูดของแม่เหมือนมีดกรีดใจ พวกเราทำงานหนักเพื่อมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่แม่กลับให้ทั้งหมดกับคนที่ขี้เกียจและไม่รับผิดชอบในชีวิตตนเอง ทั้งที่ตอนแม่อยู่กับเขา ต้องเลี้ยงวัว ปลูกผัก และใช้เงินออมทั้งหมดเพื่อครอบครัวนั้น

เมื่อพวกเขาไม่ต้องการแม่แล้ว ก็ไล่เธอออกจากบ้าน ตอนนั้นผมสงสารแม่มาก จึงรับมาอยู่ด้วย และตั้งใจจะดูแลจนถึงวันสุดท้ายของชีวิตเธอ

แต่พอแม่ทำแบบนี้ ภรรยาผมถึงกับพูดว่า:
"แม่ลำเอียงพี่ชายมาตลอด ตั้งแต่เด็กจนโต ทุกสิ่งดีๆ แม่ก็ให้เขา พอเขาไล่แม่ออกจากบ้าน แม่ก็ยังไม่ตื่นเลยเหรอ? ถ้าแม่เห็นว่าลูกสาวไม่ใช่คนในบ้านอีก ก็กลับไปอยู่กับลูกชายคนนั้นเถอะ ให้เขาดูแลแม่เอง"

หลังพูดจบ ภรรยาผมขอให้ผมช่วยเก็บของของแม่ แล้วพาแม่กลับไปบ้านลูกชายคนโต เมื่อไปถึง พี่ชายและภรรยาเขาตกใจมาก สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที

พวกเขาพูดเสียงแข็งว่า:
“ทำไมถึงเอาแม่มาส่งที่นี่ บ้านเราก็แคบ จะอยู่ที่ไหนได้”

ผมตอบกลับทันทีว่า:
“ไม่ใช่พวกคุณได้รับเงินชดเชยจากแม่ไปหมดแล้วเหรอ ถ้าบ้านแคบก็เอาเงินนั้นไปซื้อบ้านใหม่สิ อย่างน้อยก็อย่าหนีความรับผิดชอบ”

ฝ่ายพี่สะใภ้สวนกลับว่า:
“แม่อยากให้เงินใครก็สิทธิ์ของแม่ แต่เธอเองก็มีหน้าที่ดูแลแม่เหมือนกันนะ”

ผมรู้ว่าคุยต่อไปไม่มีประโยชน์ จึงพาภรรยากลับบ้าน หลังจากนั้น พี่ชายมาขอร้องหลายครั้งให้รับแม่กลับไป เพราะแม่อยู่บ้านเขาไม่สบายใจ ถูกดุด่าทุกวัน แต่ผมตอบชัดเจนว่า:
“ถ้าจะแบ่งเงินครึ่งหนึ่งคืนมา ผมจะรับแม่กลับไป แต่ถ้าไม่ ก็ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้อีก”

เขาไม่ยอมแบ่ง เพราะเห็นแก่เงิน สุดท้ายก็ไม่มาหาเราอีกเลย

ภายหลังผมได้ยินว่า แม่อยู่ที่นั่นไม่มีความสุข ถูกลูกชายและสะใภ้ดุด่าทุกวัน แม้ไม่ถึงขั้นถูกทำร้ายแต่ก็ต้องทนทุกข์ ผมรู้สึกสงสาร แต่ครั้งนี้ผมไม่คิดจะรับแม่กลับมาอีก เพราะนี่คือผลลัพธ์ของความลำเอียงของแม่เอง

ผมคิดว่า พ่อแม่อาจรักลูกไม่เท่ากันได้ แต่ต้องรู้จักยุติธรรม หากลำเอียงเกินไป จะทำลายความสัมพันธ์ในครอบครัว และอาจทำให้ลูกที่เคยกตัญญู กลายเป็นคนใจหินในที่สุด.

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่