สุขภาพ 30/10/2025 21:05

สาววัยแค่ 24 ป่วยม.ะ.เ.ร็.งลำ.ไส้.ให.ญ่ หลังเพิกเฉย "สัญญ.าณ.เตื.อน" สำคัญ

หญิงสาววัย 24 ปี ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะ 3 หลังมองข้ามสัญญาณเตือนสำคัญ “มีเลือดปนในอุจจาระ”

เมแกน มีโดวส์ (Meagan Meadows) หญิงสาววัย 24 ปี จากรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เคยพบเลือดปนในอุจจาระตั้งแต่เดือนตุลาคม 2024 แต่เข้าใจว่าเป็นเพียงอาการริดสีดวงทวาร หลังพูดคุยกับเพื่อนและครอบครัวที่ต่างบอกว่า “ไม่ใช่เรื่องน่ากังวล” เพราะเธอยังอายุน้อย

จากอาการเล็กน้อย สู่การวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะที่ 3

หลังจากปล่อยไว้หลายเดือน อาการไม่ดีขึ้น เมแกนจึงไปพบแพทย์ประจำครอบครัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 แพทย์ไม่ได้แสดงความกังวล แต่เพื่อความปลอดภัยจึงสั่งตรวจเลือดและเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) ซึ่งผลออกมาปกติ อย่างไรก็ตาม แพทย์ส่งต่อเธอไปพบแพทย์เฉพาะทางด้านทางเดินอาหาร (GI)


ในเดือนเมษายน 2025 เมแกนตัดสินใจไม่ยกเลิกนัด และเข้ารับการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ ผลการตรวจพบก้อนเนื้อขนาดใหญ่ในลำไส้ แพทย์จึงรีบสั่งตรวจเพิ่มเติมทั้งเลือดและ CT Scan อีกครั้ง ผลยืนยันว่ามีก้อนเนื้อและต่อมน้ำเหลืองโตผิดปกติ จึงตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ และเพียง 3 วันต่อมา เธอได้รับการยืนยันว่าเป็น “มะเร็งลำไส้ใหญ่”

การผ่าตัดและข่าวร้ายที่ไม่คาดคิด

เดือนมิถุนายน 2025 แพทย์ทำการผ่าตัดนำก้อนมะเร็ง ส่วนหนึ่งของลำไส้ และต่อมน้ำเหลือง 20 ต่อมออกไปตรวจชิ้นเนื้อ ผลตรวจพบว่ามีต่อมน้ำเหลือง 7 ต่อมติดเชื้อมะเร็ง ทำให้เมแกนได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะที่ 3 และต้องเข้ารับเคมีบำบัดต่อเนื่องนาน 6 เดือน


เมแกนกล่าวว่า “หัวใจของฉันแทบหยุดเต้นตอนรู้ว่ามันเป็นระยะ 3 ฉันไม่คิดเลยว่ามันจะร้ายแรงขนาดนี้ ตอนขับรถกลับบ้าน ฉันพูดกับพ่อแม่ตลอดทางว่าฉันไม่อยากตายเลย มันน่ากลัวมากที่อยู่ดีๆ ต้องเผชิญความจริงว่าความตายอาจเกิดขึ้นได้ในวัยเพียง 24 ปี”

บทเรียนจากอาการเล็กน้อยที่ไม่ควรมองข้าม

เมแกนเล่าว่า อาการเดียวที่มีคือเลือดปนในอุจจาระ ซึ่งเธอคิดว่าเกิดจากพฤติกรรมการกินที่ไม่ดีและดื่มน้ำน้อย ทุกคนรอบตัวต่างบอกว่าเป็นริดสีดวงเท่านั้น เธอจึงไม่ได้รีบตรวจจนเวลาผ่านไปหลายเดือน และอาการยังคงอยู่ทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำ


หลังผ่าตัด เธอเปิดใจว่า “ฉันดีใจที่เอาเนื้องอกออกได้ แต่ช่วงรอผลชิ้นเนื้อ 10 วันนั้นคือเวลาที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต การรักษาไม่ง่ายเลย มันยากขึ้นทุกครั้งที่ต้องกลับไปรับยาเคมีบำบัด แต่ฉันพยายามเข้มแข็งเพื่อต่อสู้ต่อไป”

ครอบครัวและเพื่อนของเมแกนได้เปิดระดมทุนออนไลน์ผ่าน GoFundMe เพื่อช่วยค่ารักษาพยาบาลของเธอ ซึ่งยังคงอยู่ระหว่างการต่อสู้กับโรคมะเร็งด้วยหัวใจที่เข้มแข็ง






บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่