ความรัก 06/11/2025 23:01

หลังจากหย่าร้างกัน สามีโยนหมอนเก่าเพียงใบเดียวให้ฉันพร้อมคำประชด แต่วันที่ฉันถอดปลอกหม

หลังจากหย่าร้างกัน สามีโยนหมอนเก่าเพียงใบเดียวให้ฉันพร้อมคำประชด แต่วันที่ฉันถอดปลอกหมอนไปซัก ฉันถึงกับตะลึงเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ข้างใน

ก่อนจะจากกัน สามีโยนหมอนใบนั้นให้ฉันต่อหน้าพ่อแม่ของเขาพร้อมคำพูดเยาะเย้ย
การแต่งงานคือสิ่งที่ไม่มีใครบอกได้ล่วงหน้า แม้วันหนึ่งเราจะเคยรักและต้องการกันมากแค่ไหนก็ตาม





ฉันกับเขารักกันอยู่ 4 ปีก่อนจะแต่งงานกัน แต่เพราะพื้นฐานครอบครัวต่างกันมาก ครอบครัวของเขาไม่ยอมรับฉัน เขาเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลที่มั่งคั่ง พ่อแม่ทำธุรกิจก่อสร้าง ส่วนฉันเป็นเพียงลูกสาวชาวนา เรียบง่าย และมาทำงานเป็นบัญชีในบริษัทของครอบครัวเขา เราพบกันและตกหลุมรักกันในที่ทำงานนั้น

เราได้แต่งงานกันเพราะฉันตั้งครรภ์ก่อน ทำให้ครอบครัวของเขาต้องยอมรับอย่างไม่เต็มใจ การได้แต่งเข้าบ้านคนรวยเหมือนจะเป็นการเปลี่ยนชีวิต แต่จริง ๆ แล้วมันเต็มไปด้วยความกดดันและเจ็บปวด ยกเว้นสามี ทุกคนในบ้านต่างดูถูกฉัน พูดจาเหยียดหยาม เหมือนฉันเป็นเพียงคนใช้ ฉันอดทนทุกอย่างเพื่อไม่ให้สามีเสียใจ หวังว่าสักวันครอบครัวเขาจะยอมรับฉันเป็นคนในบ้าน


Gặp chồng cũ sau 5 năm ly hôn, anh líu lưỡi vì gọi tôi là mẹ kế


เวลาผ่านไป 11 ปี ฉันมีลูกสองคนและลาออกจากงานเพื่ออยู่บ้านเลี้ยงลูก ดูแลบ้าน แต่ครอบครัวเขาก็ยังไม่เห็นฉันเป็นสะใภ้ของบ้านจริง ๆ ความรักของเราค่อย ๆ จืดจาง ความแตกต่างทางฐานะและความคิดทำให้เราห่างเหิน เราทะเลาะกันบ่อยขึ้น เขาบอกว่าฉันไม่คู่ควรกับเขา อยู่กับฉันแล้วไม่มีความสุขอีกต่อไป

วันหนึ่งเขาเอาใบหย่ามาวางตรงหน้าฉันต่อหน้าพ่อแม่ บอกให้ฉันเซ็น และบอกว่าจะเอาลูกไปเลี้ยงเองเพราะฉันไม่มีรายได้ เขาบอกว่าชีวิตคู่จบลงแล้ว ไม่มีความรู้สึกเหลืออยู่ ขอให้ต่างคนต่างไป ฉันร้องไห้อ้อนวอน ขอเขาอย่าทำแบบนั้น เพราะฉันไม่อยากห่างลูก แต่สุดท้ายเขาก็ยืนยันจะหย่า

เมื่อจัดการเรื่องหย่าที่ศาลเสร็จ ฉันกลับมาที่บ้านเก็บของเพื่อออกไปอยู่ข้างนอก ก่อนจะไป เขาโยนหมอนใบเก่าให้ฉัน พร้อมพูดต่อหน้าพ่อแม่เขาว่า

“เอาของต่ำ ๆ ของเธอไป แล้วอย่าให้ฉันเห็นของของเธอในบ้านนี้อีก!”

ฉันอุ้มหมอนใบนั้นออกมาด้วยหัวใจแตกสลาย 11 ปีที่ใช้ชีวิตร่วมกัน ฉันจากไปด้วยสองมือเปล่าและหัวใจที่เต็มไปด้วยความอับอาย

ฉันไม่กล้ากลับไปบ้านพ่อแม่ จึงเช่าห้องเล็ก ๆ อยู่คนเดียว ตั้งใจจะเริ่มทำงานใหม่ แต่ด้วยอายุเท่านี้ การหางานออฟฟิศก็ยากแล้ว ฉันคิดจะขายของแต่ไม่มีทุน จึงลองสมัครงานโรงงานดู ถึงแม้ชีวิตในห้องเช่าจะเงียบเหงา แต่ก็ไม่ต้องฟังคำดูถูกจากใครอีกแล้ว ก็ถือว่าโล่งใจ

จนกระทั่งวันหนึ่ง ฉันซักผ้าทำความสะอาดของเก่า และตัดสินใจถอดปลอกหมอนใบนั้นไปซัก พอถอดออก ฉันตกใจเมื่อเห็นบัตรเอทีเอ็มตกออกมาพร้อมกระดาษใบเล็กที่เขียนว่า

“รหัสคือวันเกิดของเธอ”

ด้วยความสงสัย ฉันลองนำบัตรไปกดเงินดู และแทบช็อกเมื่อเห็นยอดเงินในบัญชีอยู่ที่ 2 ล้านบาท

ฉันรีบโทรหาสามีเก่า เขาไม่ยอมพบ บอกเพียงว่า

“11 ปีที่ผ่านมา เธอลำบากมากพอแล้ว เงินก้อนนี้ถือเป็นค่าตอบแทนช่วงวัยสาวของเธอ เอาไว้ตั้งตัวทำธุรกิจก็ได้ พ่อแม่ฉันเข้มงวด ฉันเลยต้องทำแบบนี้ ถึงเราจะหมดรักกัน แต่ฉันยังอยากเห็นเธอมีความสุข อย่าปฏิเสธเลยนะ”

ได้ยินเขาพูดแบบนั้น ฉันไม่รู้จะร้องไห้หรือยิ้มดี ควรจะรับเงินก้อนนี้ไว้... หรือคืนมันเพราะศักดิ์ศรีของตัวเองดีนะ?

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่