สุขภาพ 08/11/2025 10:16

4 ประเภทปลาที่เสี่ยงก่อมะ.เร็.งมากที่สุด คนขายยังไม่กล้ากิน แต่หลายครอบครัวกลับชอบกินเป็น

“ปลา” มักถูกมองว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ โปรตีนสูง ไขมันต่ำ และย่อยง่าย หลายคนจึงเลือกกินปลาแทนเนื้อสัตว์ชนิดอื่นโดยคิดว่าปลอดภัยกว่า
แต่คุณรู้หรือไม่ว่า... ปลาบางชนิดกลับ เต็มไปด้วยสารพิษและโลหะหนัก ที่สะสมในร่างกายทีละน้อย จนในระยะยาวอาจกลายเป็น “ต้นเหตุของมะเร็ง” โดยที่เราไม่รู้ตัว

วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ 4 ชนิดปลาที่ควรระวังเป็นพิเศษ เพราะแม้แต่คนขายเองยังไม่กล้ากินบ่อย ๆ แต่กลับเป็นเมนูโปรดของหลายครอบครัวไทย!

🐟 1. ปลาดุกเลี้ยง (ปลาดุกบ่อ)

ปลาดุกเป็นปลาที่เติบโตเร็วและเลี้ยงง่ายในบ่อ แต่เพื่อให้โตทันขาย เกษตรกรบางรายใช้ อาหารเร่งโตหรือสารเคมีในบ่อ ซึ่งอาจมีสารตกค้างในเนื้อปลา
ปลาดุกยังเป็นปลาที่อยู่ก้นบ่อ กินเศษอาหารและของเน่าเปื่อย จึงมีแนวโน้มสะสมสารพิษและแบคทีเรียในร่างกาย

หากปรุงไม่สุกหรือกินบ่อยเกินไป อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคตับ มะเร็งกระเพาะอาหาร และโรคพยาธิในตับ

💡 คำแนะนำ: หากจะกิน ควรเลือกปลาดุกธรรมชาติ หรือล้างและปรุงให้สุกดีเท่านั้น

🐠 2. ปลาซาบะ (ปลาแมคเคอเรลนำเข้า)

ปลาซาบะหรือปลาแมคเคอเรลจากต่างประเทศ โดยเฉพาะชนิดบรรจุกระป๋อง มักผ่านกระบวนการแปรรูปหลายขั้นตอน
ปลาบางชนิดจับมาจากทะเลลึกซึ่งมีการปนเปื้อน สารปรอท (Mercury) สูง

เมื่อบริโภคสะสมเป็นเวลานาน สารปรอทจะทำลายระบบประสาทส่วนกลาง ส่งผลต่อสมอง หัวใจ และอาจก่อให้เกิดการกลายพันธุ์ของเซลล์จนกลายเป็นมะเร็งได้

⚠️ หากชอบกินปลากระป๋อง ควรจำกัดปริมาณไม่เกิน 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ และควรเลือกแบรนด์ที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยอาหาร

🐡 3. ปลาทับทิมหรือปลานิลเลี้ยงในบ่อสกปรก

ปลาทับทิมและปลานิลเป็นปลายอดนิยมในครัวไทย แต่หลายฟาร์มเลี้ยงในบ่อปิดที่น้ำไม่สะอาด และใช้สารเคมีเพื่อควบคุมตะไคร่หรือฆ่าเชื้อ
Món cá có khả năng gây ung thư cao bậc nhất được WHO cảnh báo, đáng tiếc nhiều  người Việt lại thích ăn

เนื้อปลาจากบ่อแบบนี้มักมีกลิ่นคาวจัด และหากไม่ได้ผ่านการล้างหรือปรุงอย่างถูกวิธี อาจมีสารเคมีตกค้าง ซึ่งเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินอาหารและตับ

🧂 ทางเลือกที่ปลอดภัยคือ เลือกปลาที่จับจากแหล่งน้ำธรรมชาติ หรือซื้อจากฟาร์มที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP

🐋 4. ปลาน้ำจืดขนาดใหญ่ (เช่น ปลาบึก ปลากด ปลาสวาย)

ปลาขนาดใหญ่ที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำมักสะสมสารพิษและโลหะหนักจากน้ำที่ปนเปื้อน เช่น ตะกั่ว แคดเมียม หรือสารเคมีจากโรงงาน
สารเหล่านี้ไม่สลายไป แต่จะสะสมในเนื้อและไขมันปลา เมื่อเรากินเข้าสู่ร่างกาย จะสะสมต่อเนื่องในตับ ไต และเซลล์จนทำให้เซลล์เสื่อมและกลายพันธุ์

🧠 สารโลหะหนักเหล่านี้เป็นปัจจัยหนึ่งที่แพทย์พบว่าทำให้เกิด “มะเร็งตับและมะเร็งไต” ในผู้ที่กินปลาน้ำจืดจากแม่น้ำที่มีมลพิษเป็นประจำ

🍽️ แล้วควรกินปลาแบบไหนถึงจะปลอดภัย?

  • เลือก ปลาทะเลน้ำลึกขนาดเล็ก เช่น ปลาซาร์ดีน ปลาทู หรือปลากะพง ซึ่งมีไขมันดี (โอเมก้า 3) และโลหะหนักน้อยกว่า

  • หลีกเลี่ยงการกินปลาทอดซ้ำ ๆ เพราะน้ำมันที่ใช้ซ้ำจะสร้างสารก่อมะเร็งเพิ่ม

  • ปรุงอาหารให้สุกทั่วถึงทุกครั้ง เพื่อฆ่าเชื้อและพยาธิในปลา

สรุป

ปลาไม่ใช่อาหารอันตราย หากเรารู้จักเลือกแหล่งที่มาที่สะอาดและปลอดภัย
แต่อย่าหลงเชื่อคำว่า “กินปลาแล้วดีต่อสุขภาพ” โดยไม่พิจารณาว่าปลานั้นมาจากที่ใด

⚠️ “ของดีจะกลายเป็นของร้ายได้ หากเรากินผิดวิธี — รู้เท่าทันคือเกราะป้องกันโรคที่ดีที่สุด” 🐟

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่