ความรัก 2025-04-10 16:30:15

หญิงชราถูกไล่ลงจากรถเมล์เพราะไม่มีตั๋ว แต่ชีวิตของเธอทำให้ทุกคนก้มหัวด้วยความชื่นชม...

รถเมล์สาย 25 เพิ่งเลี้ยวเข้าสถานีตอนที่ฝนเริ่มตกหนัก ผู้โดยสารเบียดเสียดกันขึ้นลงรถ ทุกคนเร่งรีบไม่มีใครมองหน้ากัน ท่ามกลางฝูงชน มีหญิงชราคนหนึ่งเดินไปที่ประตูรถ เธอถือถุงพลาสติกเก่าๆ ไว้ในมือ โดยมีมาม่าสำเร็จรูปหลายห่อและขนมปังขยำอยู่ข้างใน ขณะที่คนขายตั๋วยื่นมือขอเงิน เธอก็กระซิบอะไรบางอย่างแล้วยื่นธนบัตรมูลค่า 5,000 ดองให้

บรรยากาศในรถเงียบสงบลงอย่างกะทันหัน เมื่อชายหนุ่มในเครื่องแบบพูดเสียงดังขึ้น เขาจ้องดูเธอแล้วพูดอย่างชัดเจนว่า “ถ้าคุณไม่มีเงินพอ ก็ลงจากรถบัสไป” ไม่มีใครพูดอะไร ไม่มีใครตอบสนอง รถดูเหมือนจะหยุดนิ่งไปสองสามวินาทีแล้วจึงเคลื่อนตัวต่อไป ทิ้งให้หญิงชราคนหนึ่งยืนอยู่กลางสายฝน โดยมีข้าวของกระจัดกระจายอยู่ในแขนของเธอ บรรจุภัณฑ์บะหมี่แตกแตกในน้ำ ก้อนขนมปังเปียก และขวดน้ำถูกกลิ้งไปข้างถนน เธอได้ยืนขึ้นโดยไม่พูดสักคำ หยิบแต่ละชิ้นขึ้นมาและหายลับไปในการจราจรที่วุ่นวายในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนอย่างเงียบๆ

ภาพเหตุการณ์ทั้งหมดถูกบันทึกไว้โดยนักศึกษาสื่อสารมวลชนชื่อฟอง ซึ่งบังเอิญอยู่บนรถบัสคันนั้น ไม่มีการตัดต่อ ไม่มีเอฟเฟกต์ ไม่มีเพลงประกอบ เป็นเพียงวิดีโอดิบๆ พร้อมคำบรรยายสั้นๆ ว่า “ฉันไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร แต่ฉันไม่สามารถเพิกเฉยต่อคุณได้ในวันนี้” คลิปดังกล่าวถูกโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียในช่วงเที่ยงคืน และภายในเช้าวันรุ่งขึ้น ก็แพร่กระจายไปตามหน้าส่วนตัว กลุ่ม และแฟนเพจทั้งเล็กและใหญ่ คอมเมนต์ก็หลั่งไหลเข้ามา หุ้นก็เพิ่มขึ้นทุกนาที ผู้คนต่างรู้สึกไม่พอใจ โกรธเคือง และบางคนถึงกับเรียกร้องให้ตรวจสอบที่อยู่ของผู้ขายตั๋วเพื่อชี้แจงความรับผิดชอบ แต่ก็มีบางคนที่ยังคงนิ่งเงียบ ทิ้งไว้เพียงสัญลักษณ์แห่งความเศร้าโศก ราวกับว่าหัวใจของพวกเขาเพิ่งไปสัมผัสบางสิ่งที่เก่าแก่มาก

ในส่วนความเห็น มีผู้คนหลายร้อยคนเล่าถึงครั้งที่พวกเขาเห็นฉากที่คล้ายกันแต่กลับหันหน้าหนีไป มีผู้ยอมรับว่าเคยเป็นพนักงานขายตั๋ว และสารภาพว่าเคยมีพฤติกรรมเหมือนคนในคลิป บางคนจำคุณย่าและคุณแม่ของพวกเขาได้ ซึ่งเป็นคนที่ออกจากรถไปอย่างเงียบๆ เมื่อพวกเขาไม่มีเงินพอหรือไม่มีเวลาอธิบาย สังคมที่พลุกพล่านกลับดำเนินไปช้าลงอย่างกะทันหัน ไม่ใช่เพราะเรื่องราวเข้มข้นเกินไป แต่เพราะว่ามันคุ้นเคยเกินไป

บริษัทขนส่งได้ออกประกาศพักงานพนักงานที่ชื่อ Dung อย่างรวดเร็วในระหว่างรอคำชี้แจง แต่สิ่งที่ทำให้เกิดความปั่นป่วนมากกว่านั้นคือการตอบสนองของ Dung เองเมื่อผู้สื่อข่าวติดต่อไป เขาบอกให้ฉันปฏิบัติตามกฎ: “ถ้าไม่มีเงิน คุณก็ไปไม่ได้” ไม่มีคำขอโทษ ไม่มีความกังวล ปฏิกิริยาดังกล่าวยิ่งทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น ส่งผลให้โซเชียลมีเดียกลับมาโหมกระหน่ำอีกครั้ง แต่ท่ามกลางความขัดแย้งทั้งหมดนี้ ไม่มีใครทราบเลยว่าหญิงชรานั้นเป็นใคร ไม่มีใครรู้ว่าเหตุใดเธอจึงอยู่บนรถบัสในเวลานั้นด้วยท่าทางเศร้าหมองมาก ไม่มีใครรู้ว่าเรื่องราวของเธอเริ่มต้นที่ไหนและจะดำเนินต่อไปอย่างไร

ในห้องเช่าเล็กๆ แห่งหนึ่งในเมืองดาลัต ข่านห์กำลังรับประทานอาหารเย็นเมื่อเพื่อนส่งลิงก์คลิปดังกล่าวมาให้เขา เขาเปิดมันและอ่านมันเหมือนข่าวอื่นๆ แต่เมื่อหญิงชราโน้มตัวลงไปหยิบก้อนขนมปัง เขาก็หยุด มีอะไรบางอย่างที่คุ้นเคยมาก เขาย้อนมองดูใบหน้าของหญิงชราภายใต้แสงไฟถนนอย่างใกล้ชิด จากนั้นก็กระโดดลุกขึ้น ทุกลักษณะ ทุกรายละเอียด ดวงตา สันจมูก กระเป๋าผ้าเก่า ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนเป็นความทรงจำเก่าๆ ที่ถูกฝังเอาไว้มานานกว่า 20 ปี

ข่านห์เดินเข้าไปในห้องแล้วหยิบกล่องเหล็กขึ้นสนิมออกมา ซึ่งเขาเก็บของสำคัญที่สุดสมัยเด็กๆ ของเขาเอาไว้ ภาพถ่ายเก่าแสดงให้เห็นเด็กชายกำลังนั่งอยู่บนตักผู้หญิงร่างผอมที่มีดวงตาอ่อนโยนและรอยยิ้มซีดๆ เขาเอารูปภาพนั้นไปวางข้างหน้าจอโทรศัพท์ ทุกสิ่งในตัวฉันหยุดนิ่งไป ไม่แน่ใจ แต่ความรู้สึกแน่นในอกทำให้เขานั่งนิ่งไม่ได้ เขาจำชื่อของมาเบย์ได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นคนที่เลี้ยงดูเขามาจนถึงอายุ 12 ขวบ จากนั้นก็หายตัวไปอย่างกะทันหันในคืนฝนตก บุคคลที่เขากำลังตามหาได้สอบถามตามหอพักเก่าๆ ก่อนที่จะกลับไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเพื่อสอบถามข้อมูล แต่ในที่สุดก็ได้รับเพียงการส่ายหัวเท่านั้น

คานห์ไม่ลังเลเลย คืนนั้นเขาจองตั๋วรถบัสออกเดินทางจากดาลัตไปไซง่อน ในกระเป๋าเป้มีเพียงเสื้อผ้าไม่กี่ชิ้น เงินจำนวนหนึ่ง และเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวเล็กที่หม่าเบย์เย็บให้เขาเมื่อเขาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ปลอกคอถูกเย็บด้วยด้ายสีน้ำเงิน เพราะเธอแจ้งว่าไม่มีด้ายสีขาว จึงใช้ด้ายผ้าขนหนูแทน เขาโกรธเธอเรื่องนั้นตลอดทั้งปีการศึกษา แต่ตอนนี้ ทุกๆ ตะเข็บที่ไม่ตรงแนวกลับดูชัดเจนอย่างน่าประหลาด

คานห์ไม่ได้นอนระหว่างการเดินทาง เขาเล่นคลิปนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซูมเข้ามาที่เฟรม พิจารณาทุกรายละเอียด ราวกับกลัวว่าจะพลาดสิ่งใดๆ เมื่อรถบัสมาถึงสถานีเมียนเตย์ ยังเป็นเวลาเช้าตรู่ เขาสะพายเป้แล้วมุ่งหน้าตรงไปยังตลาด Nguyen Chi Phuong ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำคลิป ความคิดหนึ่งในใจของเขาคือเขาจะต้องตามหาผู้หญิงคนนั้นให้พบ แม้จะมีความหวังเพียง 1% เขาก็ไม่อาจเพิกเฉยได้

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่