ความรัก 2025-04-19 21:32:11

ช่างภาพของเด็กหญิงผู้เคราะห์ร้ายที่ติดอยู่ในโคลนภูเขาไฟอธิบายเหตุผลที่เขาไม่ช่วยเหลือ

ในปี 2528 การปะทุของภูเขาไฟเนวาโด เดล รุยซ์ (Nevado del Ruiz) ในประเทศโคลอมเบียได้ก่อให้เกิดกระแสน้ำโคลนภูเขาไฟที่รุนแรง (Lahar) ซึ่งทำลายเมืองอาร์เมโร (Armero) อย่างสิ้นเชิง ท่ามกลางเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายหลายพันคน มีเด็กหญิงวัย 13 ปีชื่อ โอไมรา ซานเชซ การ์ซอน (Omayra Sánchez Garzón) ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของความสูญเสียในหายนะครั้งนั้น

โอไมราติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังและโคลนภูเขาไฟเป็นเวลาสามวันก่อนที่เธอจะเสียชีวิตจากภาวะตัวเย็นเกินหรือแผลเน่าติดเชื้อ ถึงแม้จะมีความพยายามช่วยเหลือหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถช่วยเธอออกมาได้

ในช่วงเวลานั้น ช่างภาพชาวฝรั่งเศสชื่อ แฟรงค์ ฟูร์นิเยร์ (Frank Fournier) ได้ถ่ายภาพอันโด่งดังของโอไมรา ซึ่งเผยให้เห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าและเจ็บปวด ภาพถ่ายดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว และสะท้อนให้เห็นถึงความกล้าหาญของเธอในการเผชิญหน้ากับความตาย มันยังดึงดูดความสนใจของโลกไปยังความล้มเหลวของรัฐบาลโคลอมเบียในการจัดการภัยพิบัติครั้งนี้

ในบทสัมภาษณ์กับ BBC ปี 2548 ฟูร์นิเยร์อธิบายว่า การช่วยชีวิตโอไมราในตอนนั้นเป็น "เป็นไปไม่ได้" เขารู้สึก "ไร้พลังโดยสิ้นเชิง" เมื่อต้องเผชิญกับเด็กหญิงที่กำลังจะตายด้วยความกล้าหาญและสง่างาม เขาเชื่อว่าสิ่งเดียวที่เขาทำได้ในขณะนั้นคือรายงานเรื่องราวของเธอให้โลกรับรู้ เพื่อกระตุ้นให้มีความช่วยเหลือแก่ผู้รอดชีวิตรายอื่นๆ
Photographer of tragic little girl trapped in volcanic mudflow explains why he didn't help her ...

ฟูร์นิเยร์ปกป้องการตัดสินใจถ่ายภาพของตัวเอง โดยชี้ว่ามันช่วยกระตุ้นความตระหนักระดับนานาชาติและนำไปสู่ความช่วยเหลือจากนานาประเทศ เขายังระบุว่ารัฐบาลขาดผู้นำ และแม้นักวิทยาศาสตร์จะคาดการณ์หายนะนี้ไว้แล้ว แต่ก็ไม่มีแผนการอพยพใดๆ ถูกดำเนินการเลย

ภาพถ่ายของโอไมราได้รับรางวัล World Press Photo of the Year ในปี 1986 แต่ก็สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสาธารณชน หลายคนตั้งคำถามว่าทำไมเทคโนโลยีสามารถส่งภาพของเด็กหญิงผู้เจ็บปวดไปทั่วโลกได้ในพริบตา แต่กลับไม่สามารถใช้เพื่อช่วยชีวิตเธอได้ ฟูร์นิเยร์เองก็ถูกตำหนิว่าเลือกเก็บภาพมากกว่าช่วยเหลือเธอ

แม้จะถูกวิจารณ์อย่างหนัก ฟูร์นิเยร์ยังคงยืนหยัดในความเชื่อว่าภาพถ่ายนั้นมีความจำเป็น เพื่อเปิดโปงความเจ็บปวดของมนุษย์จากภัยพิบัติ และถือเป็นการสะท้อนความล้มเหลวของเจ้าหน้าที่รัฐ เขาเน้นย้ำถึงบทบาทของการถ่ายภาพข่าวที่มีหน้าที่บันทึกเหตุการณ์โศกนาฏกรรมเหล่านี้ และกระตุ้นการรับรู้เพื่อป้องกันเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต

เรื่องราวของโอไมรายังคงเป็นสิ่งที่สะเทือนใจ และเตือนใจถึงความทุกข์ทรมานของมนุษย์ที่เกิดจากภัยธรรมชาติ ตลอดจนความสำคัญของการเตรียมความพร้อมและความเป็นผู้นำในยามวิกฤต ภาพถ่ายอันทรงพลังของฟูร์นิเยร์ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจถึงความเข้มแข็งของจิตวิญญาณมนุษย์ และบทบาทของสื่อในการเป็นพยานต่อเหตุการณ์สะเทือนใจที่สุดของโลก.

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่