สุขภาพ 22/10/2025 23:08

ผู้เสีย.ชี.วิ.ต.จ.าก “ไ.ต.ว.า.ย” เพิ่มขึ้นทุกปี — หมอเตือน 6 พฤติกรรมที่ไม่ควรทำถ้าอยากรักษาไตใ

ผู้เสีย.ชี.วิ.ต.จ.าก “ไ.ต.ว.า.ย” เพิ่มขึ้นทุกปี — หมอเตือน 6 พฤติกรรมที่ไม่ควรทำถ้าอยากรักษาไตให้แข็งแรง

กิจวัตรบางอย่างดูเหมือนไม่มีอันตราย แต่หากทำซ้ำต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจทำให้ไตของคุณเสื่อมลงอย่างรุนแรงได้

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จำนวนผู้เสียชีวิตจากภาวะไตวายและโรคแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า “ไต” เป็นอวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่กรองของเสีย ควบคุมสมดุลน้ำ เกลือ และกรด-ด่าง รวมถึงดูแลการทำงานของระบบเผาผลาญทั้งหมดในร่างกาย

เมื่อไตได้รับความเสียหาย ของเสียไม่สามารถขับออกได้ จึงสะสมอยู่ในเลือด ส่งผลกระทบต่อหัวใจ ระบบประสาท และอาจร้ายแรงถึงชีวิต โรคไตวายไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน แต่เป็นผลสะสมจากพฤติกรรมที่ผิดเป็นเวลาหลายปี

ต่อไปนี้คือ 6 สิ่งที่หมอแนะนำให้หลีกเลี่ยง ถ้าไม่อยาก “เสี่ยงชีวิต” กับไตของตัวเอง 👇


Ngày càng nhiều người tử vong vì suy thận, bác sĩ khuyên: Chớ dại đụng nhiều 6 việc này- Ảnh 1.



1. กลั้นปัสสาวะบ่อย ๆ

หลายคน โดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศหรือผู้สูงอายุ มักกลั้นปัสสาวะเพราะไม่สะดวกลุกไปเข้าห้องน้ำ การกลั้นปัสสาวะทำให้กระเพาะปัสสาวะมีแรงดันสูง ปัสสาวะค้างและไหลย้อนกลับไปที่ไต ทำให้เกิดการอักเสบและทำลายเนื้อเยื่อไต จนอาจนำไปสู่ภาวะไตวายเรื้อรังได้

โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคไตหรือความดันโลหิตสูงอยู่แล้ว ควรระวังเป็นพิเศษ ควรเข้าห้องน้ำทันทีเมื่อรู้สึกปวดปัสสาวะ อย่าฝืนเพราะ “ความสะดวกชั่วคราว”


2. ใช้ยาเกินความจำเป็น

ยาลดปวดและยาต้านอักเสบกลุ่ม NSAIDs เช่น ibuprofen หรือ aspirin แม้ช่วยบรรเทาอาการปวด แต่หากใช้บ่อยหรือใช้ติดต่อกันนาน จะลดการไหลเวียนเลือดไปที่ไต ทำให้เซลล์ไตเสียหายและการกรองของเสียลดลง

หมอแนะนำให้ใช้ยาเฉพาะเมื่อจำเป็นจริง ๆ และหลีกเลี่ยงการซื้อยากินเอง โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคไตหรือโรคความดันโลหิตสูง


3. ดื่มน้ำซุปหรือน้ำต้มต่าง ๆ มากเกินไป

แม้น้ำซุปและหม้อไฟร้อน ๆ จะอร่อยและน่ากิน แต่จริง ๆ แล้วเป็นภาระหนักของไต เพราะน้ำซุปมักมีเกลือ ไขมัน และพิวรีนสูง ทำให้ไตต้องทำงานหนักในการขับสารเหล่านี้ออกจากร่างกาย หากรับประทานบ่อยจะเพิ่มความเสี่ยงต่อความดันโลหิตสูง บวมน้ำ และไตวาย

หมอแนะนำให้กินหม้อไฟหรือซุปเพียง 1–2 ครั้งต่อเดือน และไม่ควรดื่มน้ำซุปจนหมดชาม


4. กินเค็มและไม่รักษาความอบอุ่นของร่างกาย

อากาศหนาวทำให้หลอดเลือดหดตัว เลือดไหลเวียนช้า ไตจึงได้รับเลือดไปเลี้ยงน้อยลง หากยังกินอาหารเค็มจัด จะเพิ่มภาระให้ไตทำงานหนักขึ้นสองเท่า

นอกจากนี้ การไม่รักษาความอบอุ่นอาจทำให้เกิดโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบหรือไตอักเสบได้ หมอแนะนำให้รักษาความอบอุ่นของศีรษะ คอ หลังส่วนล่าง และเท้า โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันสูง หรือโรคไตเรื้อรัง


5. ดื่มน้ำน้อยเกินไป

น้ำคือ “เพื่อนที่ดีที่สุดของไต” หากร่างกายขาดน้ำ ปัสสาวะจะเข้มข้นขึ้น ของเสียไม่สามารถขับออกได้ เกิดนิ่วหรือการอักเสบของไต

ผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีควรดื่มน้ำวันละ 1.5–2 ลิตร แบ่งดื่มหลายครั้งตลอดวัน แต่ผู้ที่มีภาวะไตวายหรือบวมน้ำ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนปรับปริมาณน้ำดื่ม


6. กินอาหารที่มีโพแทสเซียมสูงมากเกินไป

โพแทสเซียมจำเป็นต่อการทำงานของหัวใจและกล้ามเนื้อ แต่เมื่อไตทำงานลดลง ร่างกายจะขับโพแทสเซียมออกได้น้อย ระดับโพแทสเซียมในเลือดที่สูงเกินไปอาจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือหยุดเต้นกะทันหันได้

ผู้ที่มีภาวะไตเสื่อมควรจำกัดอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น กล้วย ส้ม มันฝรั่ง และน้ำมะพร้าว และตรวจระดับโพแทสเซียมในเลือดเป็นระยะตามคำแนะนำของแพทย์


💬 สรุป: ไตเป็นอวัยวะที่ต้องการการดูแลทุกวัน การปรับพฤติกรรมเล็กน้อย เช่น ดื่มน้ำให้เพียงพอ ไม่กินเค็ม ไม่กลั้นปัสสาวะ จะช่วยปกป้องไตและยืดอายุได้ยาวนาน

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่